ค้นหาบล็อกนี้

วันเสาร์ที่ 6 กันยายน พ.ศ. 2568

อยากรู้จัก? What’s your name? วิธีถามชื่อและที่มาแบบมือโปร

 ถามให้เป็น สานสัมพันธ์ให้ได้มากกว่าแค่ “What’s your name?”

การทำความรู้จักกับคนใหม่เป็นเรื่องที่น่าตื่นเต้น แต่หลายคนอาจติดอยู่กับประโยคเดิม ๆ อย่าง "What's your name?" หรือ "Where are you from?" ที่อาจจะฟังดูห้วนไปสักหน่อย วันนี้เราจะมาเรียนรู้วิธีการถามคำถามเหล่านี้ให้ดูเป็นธรรมชาติและสุภาพยิ่งขึ้น เพื่อช่วยให้คุณเริ่มต้นบทสนทนาได้อย่างราบรื่นและสร้างความประทับใจตั้งแต่แรกเจอ




1. วิธีถาม "คุณชื่ออะไร?" (How to ask "What's your name?")

การถามชื่ออย่างเหมาะสมเป็นขั้นตอนแรกในการสร้างความสัมพันธ์ และเป็นสิ่งสำคัญในการแสดงความเคารพต่อคู่สนทนาของคุณ ประโยคที่ใช้ในการถามชื่อมีหลายระดับความทางการ ให้คุณเลือกใช้ตามความเหมาะสม

ประโยคที่ใช้บ่อยและเป็นกลาง (Common & Neutral Phrases)

ประโยคเหล่านี้เหมาะสำหรับสถานการณ์ทั่วไป เช่น การแนะนำตัวในงานสังคมหรือการพบปะคนใหม่ในกลุ่ม

  • Could I ask your name? (คูด ไอ อาสก์ ยัวร์ เนม?) - ขอทราบชื่อของคุณได้ไหม?

  • May I have your name, please? (เมย์ ไอ แฮฟว ยัวร์ เนม, พลีส?) - ขอชื่อของคุณหน่อยได้ไหม?

  • And your name is...? (แอนด์ ยัวร์ เนม อิส...?) - แล้วชื่อของคุณคือ...?

  • I don't think we've met. I'm [ชื่อของคุณ]. (ไอ โดนท์ ติงค์ วีฟ เมท. ไอม [ชื่อของคุณ]) - เราคงยังไม่เคยเจอกัน ผม/ฉันชื่อ [ชื่อของคุณ]

ประโยคที่เป็นทางการ (Formal Phrases)

ใช้ประโยคเหล่านี้เมื่อคุณต้องการแสดงความสุภาพสูงสุด เช่น การติดต่อในเชิงธุรกิจหรือการพูดคุยกับผู้ใหญ่

  • What is your full name? (วอท อิส ยัวร์ ฟูล เนม?) - คุณชื่อ-นามสกุลอะไร?

  • I'm sorry, what was your name again? (ไอม ซอร์รี, วอท วอส ยัวร์ เนม อะเกน?) - ขอโทษนะครับ/ค่ะ เมื่อกี้คุณชื่ออะไรนะครับ/คะ?

  • May I know your name? (เมย์ ไอ โนว์ ยัวร์ เนม?) - ขอทราบชื่อของคุณได้ไหม?

  • Could you tell me your name, please? (คูด ยู เทล มี ยัวร์ เนม, พลีส?) - ช่วยบอกชื่อของคุณให้หน่อยได้ไหม?

ประโยคที่ไม่เป็นทางการ (Informal Phrases)

ประโยคเหล่านี้เหมาะกับการใช้กับเพื่อนหรือคนวัยเดียวกัน ให้ความรู้สึกเป็นกันเอง

  • What do people call you? (วอท ดู พีเพิล คอล ยู?) - คนอื่นเรียกคุณว่าอะไร?

  • Do you have a nickname? (ดู ยู แฮฟว์ อะ นิกเนม?) - คุณมีชื่อเล่นไหม?

  • So, what's your name? (โซ, วอทส ยัวร์ เนม?) - แล้วคุณชื่ออะไร?

  • Who are you? (ฮู อาร์ ยู?) - คุณเป็นใคร? (ระวังการใช้ประโยคนี้ เพราะอาจฟังดูห้วนหรือก้าวร้าวได้)

ประโยคที่ใช้ในสถานการณ์เฉพาะ (Situational Phrases)

ประโยคเหล่านี้มีความเจาะจงมากขึ้นและช่วยให้การสนทนาเป็นไปอย่างราบรื่น

  • What name should I call you? (วอท เนม ชูด ไอ คอล ยู?) - ให้ผม/ฉันเรียกคุณว่าอะไรดี?

  • How should I address you? (ฮาว ชูด ไอ แอดเดรส ยู?) - ให้ผม/ฉันเรียกคุณว่าอะไร?

  • What do you go by? (วอท ดู ยู โก บาย?) - คุณใช้ชื่ออะไร? (ใช้บ่อยในหมู่เพื่อน)

  • Your name, please? (ยัวร์ เนม, พลีส?) - ชื่อของคุณด้วยครับ/ค่ะ

  • Tell me your name. (เทล มี ยัวร์ เนม.) - บอกชื่อของคุณมาหน่อย

  • Could you spell out your name for me? (คูด ยู สเปลล์ เอาท์ ยัวร์ เนม ฟอร์ มี?) - ช่วยสะกดชื่อของคุณให้หน่อยได้ไหม?

  • What's your first name? (วอทส ยัวร์ เฟิร์สท เนม?) - คุณชื่อจริงว่าอะไร?

  • What's your last name? (วอทส ยัวร์ ลาสท์ เนม?) - คุณนามสกุลอะไร?


2. วิธีถาม "คุณมาจากที่ไหน?" (How to ask "Where are you from?")

เมื่อคุณรู้ชื่อของคู่สนทนาแล้ว การถามถึงที่มาก็เป็นอีกหนึ่งคำถามที่ช่วยให้การสนทนาดำเนินต่อไปได้ การถามอย่างถูกวิธีจะช่วยสร้างความประทับใจและหลีกเลี่ยงการทำให้คู่สนทนารู้สึกอึดอัด

ประโยคที่ใช้บ่อยและเป็นกลาง (Common & Neutral Phrases)

ประโยคเหล่านี้เหมาะสำหรับสถานการณ์ทั่วไปและเป็นที่นิยมใช้กัน

  • Where do you come from? (แวร์ ดู ยู คัม ฟรอม?) - คุณมาจากที่ไหน?

  • Where are you originally from? (แวร์ อาร์ ยู ออริจินัลลี ฟรอม?) - คุณเป็นคนดั้งเดิมจากที่ไหน?

  • And where are you from? (แอนด์ แวร์ อาร์ ยู ฟรอม?) - แล้วคุณมาจากที่ไหน?

  • May I ask where you are from? (เมย์ ไอ อาสก์ แวร์ ยู อาร์ ฟรอม?) - ขออนุญาตถามหน่อยได้ไหมว่าคุณมาจากที่ไหน?

  • Whereabouts are you from? (แวร์อะเบาท์ส อาร์ ยู ฟรอม?) - คุณมาจากแถวไหน?

ประโยคที่ใช้ในเชิงธุรกิจหรือเป็นทางการ (Formal Phrases)

ใช้ประโยคเหล่านี้เมื่อต้องการความเป็นทางการ เช่น การประชุมทางธุรกิจหรือการพบปะผู้คนในงานราชการ

  • May I ask your place of origin? (เมย์ ไอ อาสก์ ยัวร์ เพลส ออฟ ออริจิน?) - ขอทราบถิ่นกำเนิดของคุณได้ไหม?

  • What is your country of origin? (วอท อิส ยัวร์ คันทรี ออฟ ออริจิน?) - คุณมีถิ่นกำเนิดจากประเทศอะไร?

  • Which part of the world are you from? (วิช พาร์ท ออฟ เดอะ เวิลด์ อาร์ ยู ฟรอม?) - คุณมาจากส่วนไหนของโลก?

  • Where are you a native of? (แวร์ อาร์ ยู อะ เนทิฟ ออฟ?) - คุณเป็นคนท้องถิ่นของที่ไหน?

ประโยคที่ไม่เป็นทางการ (Informal Phrases)

ประโยคเหล่านี้เหมาะสำหรับการคุยเล่นกับเพื่อนหรือคนที่คุณรู้จักอยู่แล้ว

  • Where are you based? (แวร์ อาร์ ยู เบสท์?) - คุณอาศัยอยู่ที่ไหน?

  • Where did you grow up? (แวร์ ดิด ยู โกรว์ อัพ?) - คุณเติบโตที่ไหน?

  • What's your hometown? (วอทส ยัวร์ โฮมทาวน์?) - บ้านเกิดของคุณคือที่ไหน?

  • You're not from around here, are you? (ยัวร์ นอท ฟรอม อะราวด์ เฮียร์, อาร์ ยู?) - คุณไม่ใช่คนแถวนี้นี่นา ใช่ไหม?

  • So, where are you from? (โซ, แวร์ อาร์ ยู ฟรอม?) - แล้วคุณมาจากที่ไหน?

  • What part of the country are you from? (วอท พาร์ท ออฟ เดอะ คันทรี อาร์ ยู ฟรอม?) - คุณมาจากส่วนไหนของประเทศ?

ประโยคที่ใช้ในสถานการณ์เฉพาะ (Situational Phrases)

ประโยคเหล่านี้ช่วยให้คุณถามถึงที่มาของคู่สนทนาได้อย่างเจาะจงมากขึ้น

  • Is that a local accent? (อิส แดท อะ โลคอล แอคเซนท์?) - สำเนียงนั้นเป็นสำเนียงท้องถิ่นหรือเปล่า?

  • Did you move here from another country? (ดิด ยู มูฟ เฮียร์ ฟรอม อะนอเธอร์ คันทรี?) - คุณย้ายมาที่นี่จากประเทศอื่นหรือเปล่า?

  • Where did you live before moving here? (แวร์ ดิด ยู ลิฟว์ บีฟอร์ มูฟวิง เฮียร์?) - คุณเคยอาศัยอยู่ที่ไหนก่อนที่จะย้ายมาที่นี่?

  • What part of the world did you come from? (วอท พาร์ท ออฟ เดอะ เวิลด์ ดิด ยู คัม ฟรอม?) - คุณมาจากส่วนไหนของโลก?

  • Where's home for you? (แวร์ส โฮม ฟอร์ ยู?) - บ้านของคุณอยู่ที่ไหน?


ตัวอย่างบทสนทนา (Conversation Examples)

บทสนทนาที่ 1: การแนะนำตัวในงานสังคม

แอนนา: Hi, I don't think we've met. I'm Anna.
(ไฮ, ไอ โดนท์ ติงค์ วีฟ เมท. ไอม แอนนา.)
แปล: สวัสดีค่ะ เราคงยังไม่เคยเจอกัน ฉันชื่อแอนนาค่ะ 

เบน: Hi Anna, nice to meet you. May I have your name, please?
(ไฮ แอนนา, ไนซ์ ทู มีท ยู. เมย์ ไอ แฮฟว ยัวร์ เนม, พลีส?)
แปล: สวัสดีแอนนา ยินดีที่ได้รู้จักครับ ขอทราบชื่อของคุณหน่อยได้ไหมครับ?

แอนนา: Oh, sorry. It's Ben. And where are you from, Anna?
(โอ, ซอร์รี. อิทส เบน. แอนด์ แวร์ อาร์ ยู ฟรอม, แอนนา?)
แปล: อ๋อ ขอโทษค่ะ ฉันชื่อเบน แล้วคุณมาจากที่ไหนคะ แอนนา? 

เบน: I'm from Bangkok, Thailand. And you?
(ไอม ฟรอม แบงคอก, ไทยแลนด์. แอนด์ ยู?)
แปล: ฉันมาจากกรุงเทพฯ, ประเทศไทยค่ะ แล้วคุณล่ะ?

  แอนนา: I'm originally from London. What do you do for work, Ben?
(ไอม ออริจินัลลี ฟรอม ลอนดอน. วอท ดู ยู ดู ฟอร์ เวิร์ค, เบน?)
แปล: ฉันเป็นคนลอนดอนค่ะ คุณทำงานอะไรคะ เบน? 

เบน: I'm a graphic designer. And you?
(ไอม อะ กราฟิก ดีไซน์เนอร์. แอนด์ ยู?)
แปล: ผมเป็นกราฟิกดีไซเนอร์ครับ แล้วคุณล่ะ?

บทสนทนาที่ 2: การคุยกับลูกค้าในเชิงธุรกิจ

ลูกค้า: Good morning. I'm here for the 10 a.m. meeting.
(กูด มอร์นิง. ไอม เฮียร์ ฟอร์ เดอะ เทน เอเอ็ม มีททิง.)
แปล: สวัสดีครับ ผมมาประชุมตอน 10 โมงครับ 

พนักงานต้อนรับ: Good morning, sir. Could I ask your name, please?
(กูด มอร์นิง, เซอร์. คูด ไอ อาสก์ ยัวร์ เนม, พลีส?)
แปล: สวัสดีค่ะคุณลูกค้า ขอทราบชื่อของคุณได้ไหมคะ? 

ลูกค้า: My full name is Robert Johnson.
(มาย ฟูล เนม อิส โรเบิร์ท จอห์นสัน.)
แปล: ชื่อเต็มของผมคือ โรเบิร์ท จอห์นสัน ครับ 

พนักงานต้อนรับ: Thank you, Mr. Johnson. May I ask your place of origin for our records?
(แตงก์ ยู, มิสเตอร์ จอห์นสัน. เมย์ ไอ อาสก์ ยัวร์ เพลส ออฟ ออริจิน ฟอร์ เอาเออร์ เรคคอร์ดส?)
แปล: ขอบคุณค่ะ คุณจอห์นสัน ขอทราบถิ่นกำเนิดของคุณสำหรับบันทึกของเราได้ไหมคะ? 

ลูกค้า: I'm from New York, United States.
(ไอม ฟรอม นิว ยอร์ค, ยูไนเต็ด สเตทส์.)
แปล: ผมมาจากนิวยอร์ก, สหรัฐอเมริกาครับ

บทสนทนาที่ 3: การคุยแบบสบาย ๆ กับเพื่อนใหม่

เจส: Hey! I heard you're new around here. What do you go by?
(เฮย์! ไอ เฮิร์ด ยัวร์ นิว อะราวด์ เฮียร์. วอท ดู ยู โก บาย?)
แปล: เฮ้! ได้ยินว่านายเพิ่งย้ายมาที่นี่ นายชื่ออะไรเหรอ? 

ไมค์: Yeah, I am. My name's Mike. What's your hometown?
(เย, ไอ แอม. มาย เนมส ไมค์. วอทส ยัวร์ โฮมทาวน์?)
แปล: ใช่แล้ว ฉันชื่อไมค์ บ้านเกิดนายที่ไหนเหรอ? 

เจส: I grew up in Chicago. You're not from around here, are you?
(ไอ โกรว์ อัพ อิน ชิคาโก. ยัวร์ นอท ฟรอม อะราวด์ เฮียร์, อาร์ ยู?)
แปล: ฉันโตที่ชิคาโก นายไม่ใช่คนแถวนี้ใช่ไหม? 

ไมค์: That's right! I just moved here from San Francisco.
(แดทส ไรท์! ไอ จัสท์ มูฟว์ เฮียร์ ฟรอม แซน ฟรานซิสโก.)
แปล: ถูกต้อง! ฉันเพิ่งย้ายมาจากซานฟรานซิสโก


คำศัพท์ (Vocabulary)

หมวด 1: การแนะนำตัวและถามข้อมูลส่วนตัว (Introduction & Personal Information)

  • Name (เนม) - ชื่อ

  • Full name (ฟูล เนม) - ชื่อเต็ม

  • First name (เฟิร์สท เนม) - ชื่อจริง

  • Last name (ลาสท์ เนม) - นามสกุล

  • Nickname (นิกเนม) - ชื่อเล่น

  • Ask (อาสก์) - ถาม

  • Have (แฮฟว) - มี

  • Know (โนว์) - รู้จัก

  • Tell (เทล) - บอก

  • Call (คอล) - เรียก

  • Address (แอดเดรส) - เรียก

  • Go by (โก บาย) - ใช้ชื่อ

  • Spell (สเปลล์) - สะกด

  • Meet (มีท) - พบ

  • Sorry (ซอร์รี) - ขอโทษ

  • Again (อะเกน) - อีกครั้ง

  • People (พีเพิล) - ผู้คน

  • Who (ฮู) - ใคร

  • What (วอท) - อะไร

  • How (ฮาว) - อย่างไร

หมวด 2: การถามถึงที่มาและถิ่นที่อยู่ (Origin & Location)

  • Where (แวร์) - ที่ไหน

  • From (ฟรอม) - จาก

  • Come from (คัม ฟรอม) - มาจาก

  • Originally (ออริจินัลลี) - ดั้งเดิม

  • Place of origin (เพลส ออฟ ออริจิน) - ถิ่นกำเนิด

  • Country (คันทรี) - ประเทศ

  • World (เวิลด์) - โลก

  • Native of (เนทิฟ ออฟ) - คนท้องถิ่นของ

  • Based (เบสท์) - อาศัยอยู่

  • Grow up (โกรว์ อัพ) - เติบโต

  • Hometown (โฮมทาวน์) - บ้านเกิด

  • Around here (อะราวด์ เฮียร์) - แถวนี้

  • Part of (พาร์ท ออฟ) - ส่วนของ

  • Local (โลคอล) - ท้องถิ่น

  • Accent (แอคเซนท์) - สำเนียง

  • Move (มูฟ) - ย้าย

  • Before (บีฟอร์) - ก่อน

  • Live (ลิฟว์) - อาศัย

  • Another (อะนอเธอร์) - อีก

  • Home (โฮม) - บ้าน

หมวด 3: ประโยคเพิ่มเติมและคำแนะนำ (Additional Phrases & Advice)

  • Should I (ชูด ไอ) - ฉันควร

  • Please (พลีส) - ได้โปรด

  • Thank you (แตงก์ ยู) - ขอบคุณ

  • Sorry (ซอร์รี) - ขอโทษ

  • Nice to meet you (ไนซ์ ทู มีท ยู) - ยินดีที่ได้รู้จัก

  • Welcome (เวลคัม) - ยินดีต้อนรับ

  • New (นิว) - ใหม่

  • Introduced (อินโทรดิวสท์) - แนะนำ

  • Conversation (คอนเวอร์เซชัน) - บทสนทนา

  • Fluent (ฟลูเอนท์) - คล่องแคล่ว

  • Practice (แพรคทิส) - ฝึกฝน

  • Helpful (เฮลพ์ฟูล) - มีประโยชน์

  • Confidence (คอนฟิเดนซ์) - ความมั่นใจ

  • Communication (คอมมูนิเคชัน) - การสื่อสาร

  • Relationship (รีเลชันชิพ) - ความสัมพันธ์

  • Impression (อิมเพรสชัน) - ความประทับใจ

  • Different (ดิฟเฟอร์เรนท์) - แตกต่าง

  • Situation (ซิทชูเอชัน) - สถานการณ์

  • Formal (ฟอร์มอล) - เป็นทางการ

  • Informal (อินฟอร์มอล) - ไม่เป็นทางการ

  • Polite (พะไลท์) - สุภาพ

  • Rude (รูด) - หยาบคาย

  • Avoid (อะวอยด์) - หลีกเลี่ยง

  • Remember (รีเมมเบอร์) - จำ

  • Yourself (ยัวร์เซลฟ์) - ตัวคุณเอง

  • Their (แดร์) - ของพวกเขา

  • My (มาย) - ของฉัน

  • Your (ยัวร์) - ของคุณ

  • Our (เอาเออร์) - ของพวกเรา

  • Its (อิทส) - ของมัน

ไม่มีความคิดเห็น: