ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 19 ธันวาคม พ.ศ. 2556

Yes มีคำตอบไหนจะตอบแทน "Yes " มาดูกัน



               Yes, indeed. ใช่
                Sure. มั่นใจได้เลย
                Of course.แน่นอน
                Absolutely. แน่นอน  
                Definitely. ชัดเจน  
                No doubt about it.             
                To be sure.
                You bet. คำนี้เป็นคำแสลง (Slang) มีความหมายว่า "รับพนันได้เลย" เพราะยังไงๆก็ชนะแน่
                You betcha. เป็น คำแสลง (Slang) เช่นกัน มีความหมายเช่นเดียวกับคำว่า You bet. แต่เป็นภาษาสนทนา
                คำต่อไปนี้ มีความหมาเช่นเดียวกับคำว่า "Yes" แต่มีความหนักแน่นน้อยกว่า  และในบางกรณีอาจถือว่าเป็นคำหยาบหรือไม่ค่อยจะสุภาพนัก
                Yeah     ออกเสียงว่า "หย๋า" หรือ "___" คำนี้จะได้ยินทุกวันในชีวิตประจำวัน
                Yup       ออกเสียงว่า "ยับ" โดยออกเสียงว่า "พึ" เบาๆ ท้ายคำ
                Uh-huh  อ่านว่า "ฮา-ฮะ" คำนี้ก็เช่นกันจะได้ยินทุกวันในชีวิตประจำวัน
                 นอกจากนี้  ยังมีอีก 2 คำ ที่มีความหมายว่า "Yes"
                Right     ถูกต้อง มักใช้ในการตอบรับเมื่อถูกถาม
                                This is her house? (บ้านหลังนี้ของเธอเหรอ)
                                Right. (ถูกต้องแล้ว)
            I 'm afraid so.     ใช้ตอบแทนคำว่า Yes มีความหมายว่า "คิดว่าใช่นะ"
                                เช่น Did your team lose the game? (ทีมของคุณแพ้เหรอ)
                               I'm afraid so. (คงงั้นมั้ง)

                                              

วันอาทิตย์ที่ 15 ธันวาคม พ.ศ. 2556

how's your health today? วันนี้เรามาเรียนรู้คำศัพท์ และการอธิบายอาการป่วยกันนะจ๊ะ

การสอบถามเรื่องสุขภาพ (Asking about Health) 


Are you all right? เธอสบายดีหรือ

What’s the matter? เป็นอะไรครับ

What’s the matter with you? มีเรื่องอะไรเกิดขึ้น (กับคุณ) หรือ

What happened? เกิดอะไรขึ้นหรือ

What are your symptoms? อาการของคุณเป็นอย่างไรบ้าง

Do you have a headache? คุณมีอาการปวดศีรษะไหม

Do you have fever/high temperature? ตัวร้อนหรือไข้ขึ้นไหม

How do you feel now? ตอนนี้คุณรู้สึกอย่างไร

Did you get hurt? คุณเจ็บหรือเปล่า

Describing symptoms - การบรรยายอาการ 

what's the matter? เกิดอะไรขึ้น?

I'm not feeling well ฉันรู้สึกไม่ดีเลย

I'm not feeling very well ฉันรู้สึกไม่ดีเอามากๆเลย

I feel ill ฉันรู้สึกไม่สบาย

I feel sick ฉันรู้สึกป่วย

I've cut myself ฉันทำมีดบาด

I've got a headache ฉันปวดหัว

I've got a splitting headache ฉันปวดหัวอย่างรุนแรง

I'm not well ฉันไม่ดีเลย

I've got flu ฉันเป็นไข้หวัดใหญ่

I'm going to be sick ฉันกำลังจะป่วย

I've been sick ฉันป่วย

I've got a pain in my ... ฉันปวดที่ ... ของฉัน

neck คอ เช่น I've got a pain in my neck. ฉันปวดที่คอ

my ... are hurting.  ... ของฉันเจ็บ

feet เท้า เช่น my feet are hurting. เท้าของฉันเจ็บ

knees หัวเข่า เช่น my knees are hurting.หัวเข่าของฉันเจ็บ

my back hurts หลังของฉันเจ็บ

Other useful phrases - วลีที่มีประโยชน์อื่นๆ 

have you got any ...? คุณมี ... บ้างไหม?

painkillers ยาแก้ปวด เช่น have you got any painkillers ?คุณมียาแก้ปวดบ้างไหม

paracetamol พาราเซตามอน  เช่น have you got any paracetamol ?คุณมียาพาราเซตามอนบ้างไหม

aspirin แอสไพริน  เช่น have you got any aspirin ?คุณมียาแอสไพรินบ้างไหม

plasters พลาสเตอร์  เช่น have you got any plasters ?คุณมียาพลาสเตอร์บ้างไหม

how are you feeling? คุณรู้สึกอย่างไรบ้าง?

are you feeling alright? คุณรู้สึกดีไหม?

are you feeling any better? คุณรู้สึกดีขึ้นบ้างไหม?

I hope you feel better soon ฉันหวังว่าคุณคงจะรู้สึกดีขึ้นเร็วๆ นี้

get well soon! หายไวๆ นะ!

I need to see a doctor ฉันจำเป็นต้องไปหาหมอ

I think you should go and see a doctor ฉันคิดว่าคุณควรจะไปหาหมอ

do you know a good ...? คุณรู้จัก ... ดีๆ ไหม?

doctor หมอ เช่น  do you know a good doctor ? คุณรู้จัก หมอ ดีๆ ไหม?

dentist หมอฟัน เช่น  do you know a good dentist ? คุณรู้จัก หมอฟัน ดีๆ ไหม?

do you know where there's an all-night chemists? คุณรู้จักร้านขายยาเปิดทั้งคืนบ้างไหม และของเบ็ดเตล็ด




สำนวนภาษาอังกฤษเกี่ยวกับสุขภาพอื่น ๆ 

You look very well. คุณดูมีความสุขดีนะ

You don’t look well. เธอดูไม่สบายเลยนะ

You look (very) pale. เธอดูหน้าซีด (มาก)

I feel better./I’m getting better. ฉันรู้สึกดีขึ้นแล้ว

I feel sick. ฉันรู้สึกไม่สบาย

I am all right now. ตอนนี้ฉันสบายดี

I’m much better. ฉันดีขึ้นมากเลย

I have a headache/toothache. ฉันปวดหัว/ปวดฟัน

I have a stomachache/backache. ฉันปวดท้อง/ปวดหลัง

I have a sore eye/throat. ฉันเจ็บตา/เจ็บคอ

I have a cold. ฉันเป็นหวัด

I have a slight fever. ฉันเป็นไข้นิดหน่อย

I feel chilly/dizzy. ฉันรู้สึกหนาวสั่น/มึนหัว

I have a terrible cold. ฉันเป็นหวัดรุนแรงมาก

My leg hurts. เจ็บขา

I guess I’m just tired. ฉันคิดว่า ฉันแค่เหนื่อยเท่านั้น

It’s nothing. How come? ไม่มีอะไรหรอก ทำไมหรือ

You should stay in bed. เธอควรจะกลับไปนอนพักผ่อนดีกว่า

You should see a doctor. เธอควรจะไปนอนดีกว่า

You should take some medicines. เธอควรจะกินยาดีกว่า

It’s not serious. ไม่ร้ายแรงหรอก

ศัพท์ภาษาอังกฤษอื่นๆ ที่เกี่ยวกับเรื่องสุขภาพ 

an earache ปวดหู

a cough อาการไอ

a burn แผลไฟไหม้

bruise แผลถลอก

stress อาการเครียด

sore muscles ปวดกล้ามเนื้อ

the hiccups อาการสะอึก

aspirin ยาแอสไพริน

eye drops ยาหยอดตา

ear drops ยาหยอดหู

pill/tablet ยาเม็ด

bandages ผ้าพันแผล

constipation โรคท้องผูก

asthma โรคหืด

high blood pressure ความดันโลหิตสูง

hemorrhoids ริดสีดวงทวาร

skin disease โรคผิวหนัง

ambulance รถพยาบาล

homesick โรคคิดถึงบ้าน

a rash ผื่นคัน

an allergy อาการแพ้

prescription ใบสั่งยา

diabetes โรคเบาหวาน

injection การฉีดยา

forensic medicine    นิติเวชศาสตร์

doctor   หมอ/นายแพทย์

physician แพทย์อายุรเวช

family doctor   หมอบ้าน

pediatrician, pediatrist    กุมารแพทย์

gynecologist    นรีแพทย์

tocologist, obstetrician    สูติแพทย์

neurologist    ผู้เชี่ยวชาญทางด้านประสาทวิทยา

psychiatrist จิตแพทย์

oculist    จักษุแพทย์

dentist, odontologist    หมอฟัน

surgeon    หมอศัลยกรรม

anesthetist, anaesthetist    ผู้วางยาชาหรือยาสลบ

nurse   นางพยาบาล

hospital โรงพยาบาล

clinic คลินิก

sanatorium สถานพักฟื้นของผู้ป่วย

health สุขภาพ

healthy (บุคคล) แข็งแรง

wholesome ส่งเสริมสุขภาพ/เสริมสร้างสุขภาพ

hygiene อนามัย

to get vaccinated    ปลูกฝี

sick person, patient    ผู้ป่วย

 to be sick, to be ill   เป็นไข้

sickly   ขี้โรค

ailment, complaint   โรคภัยไข้เจ็บ/เจ็บไข้ได้ป่วย

pain เจ็บ/ปวด

indisposition, slight illness    รู้สึกไม่สบาย

unwell, indisposed   ไม่สบาย/ป่วย

ulcer   แผลเปื่อย/บาดแผลที่พุพอง

wound บาดแผล

injury เสียหาย/บาดเจ็บล้มตาย

rash, eruption   เป็นผื่นหรือตุ่มขึ้นตามผิวหนัง

spot จุดด่างดำ

pimple   สิว

Blackhead สิวหัวดำ

blister   เม็ดพุพองบนผิวหนัง

 scab, boil   สะเก็ดแผล

 scar   แผลเป็น

wart หูด

callus, callosity   หนังที่ตายด้าน

corn ตาปลา

chilblain ภาวะมือและเท้าอักเสบเนื่องจากถูกความหนาวและความชื้น

Bruise/ contusion  ฟกช้ำดำเขียว

swelling   บวม/บวมเป่ง

sprain, twist   เคล็ด

fracture กระดูกหัก

symptom อาการ

diagnosis   การวินิจฉัยโรค

case เคส(คนไข้)

incubation การฟักตัว

epidemic เกี่ยวกับการระบาดเป็นครั้งคราวของโรค

contagion การติดต่อของโรค/โรคติดต่อ

fever ไข้/อุณหภูมิร่างกายที่สูงกว่าปกติ

attack, access, fit   ออกฤทธิ์/กำเริบ
coughing fit   อาการไอกำเริบ

to sneeze    จาม

faint, fainting fit    สลบ/เป็นลม

vertigo, dizziness    อาการวิงเวียนศรีษะ

to feel sick    คลื่นเหียนอาเจียร

 to lose consciousness   ไม่มีความรู้สึก

concussion ภาวะสมอง, ไขสันหลังถูกกระทบอย่างแรง


coma โคม่า

diet   โภชนาการ

treatment วิธีการรักษา

to get better, to improve   (อาการ)ดีขึ้น

cure รักษาให้หาย

relapse   อาการกำเริบขึ้นมาใหม่











ขอบคุณที่มา http://www.thaimanclub.com/english/content/74
และ     http://www.speakenglish.co.uk/phrases/health?lang=th

วันพฤหัสบดีที่ 14 พฤศจิกายน พ.ศ. 2556

English for massage

วันนี้เรามาสนทนาภาษาอังกฤษในร้านนวดกันนะจ๊ะมาเริ่มกันเลยจ้า

บทสนทนาเชิญชวนที่มีความสุภาพ สามารถทำได้โดยการขึ้นต้นประโยคด้วย



Would you like a massage…………………. แล้วตามด้วยคำนำหน้าชื่อ ลูกค้าชาวต่างชาติ

เช่น

Would you like a massage, Sir? คุณต้องการรับบริการนวดไหมครับ/คะ

Would you like a massage, Mister? คุณ(ผู้ชาย)ต้องการรับบริการนวดไหมครับ/คะ

Would you like a massage, Miss?  คุณ(สุภาพสตรี)ต้องการรับบริการนวดไหมครับ/คะ

Would you like a massage, Madam? คุณ(ผู้หญิง)ต้องการรับบริการนวดไหมครับ/คะ นอกจากนี้ยังมีบทสนทนาอื่นๆ ในการสอบถามหรือเชิญชวน ให้ลูกค้าชาวต่างชาติเข้ามาใช้บริการ

เช่น

Do you want a massage, Sir? คุณต้องการรับบริการนวดไหมครับ/คะ

Do you want a massage, Mister? คุณ(ผู้ชาย)ต้องการรับบริการนวดไหมครับ/คะ

Do you want a massage, Miss?คุณ(สุภาพสตรี)ต้องการรับบริการนวดไหมครับ/คะ

Do you want a massage, Madam?คุณ(ผู้หญิง)ต้องการรับบริการนวดไหมครับ/คะ

 ตัวอย่าง :

พนักงานนวด :

Good morning , massage, Sir ? สวัสดี(ตอนเช้า)ค่ะ คุณต้องการรับบริการนวด ไหมครับ/คะ

Good afternoon, massage, Mister ? สวัสดี(ตอนบ่าย)ครับ คุณผู้ชายต้องการรับบริการ นวดไหมครับ

Good afternoon, massage, Miss ?  สวัสดี(ตอนบ่าย)ค่ะ คุณสุภาพสตรีต้องการรับ บริการนวดไหมคะ

Good evening, massage, Madam ? สวัสดี(ตอนเย็น)ค่ะ คุณผู้หญิงต้องการรับบริการ นวดไหมคะ

พนักงานนวด :

Good morning, Would you like a massage, Sir?  สวัสดี(ตอนเช้า)ค่ะ คุณต้องการรับบริการนวดไหมคะ

Good afternoon, would you like a massage, Madam? สวัสดี(ตอนบ่าย)ครับ คุณผู้หญิงต้องการรับบริการ นวดไหมครับ

Good afternoon, Do you want a massage, Mister?  สวัสดี(ตอนบ่าย)ครับ คุณผู้ชายต้องการรับบริการ นวดไหมครับ

Good evening, Do you want a massage, Miss? สวัสดี(ตอนเย็น)ค่ะ คุณสุภาพสตรีต้องการรับบริการ นวดไหมคะ

การสอบถามข้อมูล และการแนะนำบริการนวดแผนไทย

1. การแนะนำบริการนวดแผนไทย

ตัวอย่างบทสนทนา

- I will give you a Traditional Thai Massage. ดิฉันจะให้บริการนวดแผนไทยแก่คุณค่ะ

- I will give you a good massage. ผมจะให้บริการนวดที่ดีแก่คุณครับ

- A massage will relax you. การนวดนี้จะช่วยให้คุณผ่อนคลายได้ค่ะ

หรือบางกรณีลูกค้าอาจจะกลัวแพง รวมถึงกลัวว่า ถ้ามารับบริการนวดแล้ว จะมีการเรียกค่าบริการที่สูงเกินจริง ทำให้เกิดความไม่มั่นใจว่าเราจะสามารถให้บริการนวดได้ดีจริงหรือไม่ เราควรให้ข้อมูลการบริการที่ถูกต้อง

เช่น


- I will give you special price for a Thai massage. ดิฉันจะให้ราคาพิเศษแก่คุณในการนวด(แผนไทย) ครั้งนี้ค่ะ

- I will give you a very good Thai massage.ดิฉันจะให้บริการนวด(แผนไทย) ที่ดี(มากๆ) แก่คุณค่ะ

- Guaranteed satisfaction. รับประกันความพึงพอใจ

- Guaranteed satisfaction or your money back. รับรองความพึงพอใจ ไม่อย่างนั้นเรายินดีคืนเงินให้คุณค่ะ

2. การสอบถาม/ให้ข้อมูลบริการนวดแผนไทย ทะเบียนลูกค้า/จุดบริการลูกค้า ( Registration / Service Counter)

ตัวอย่าง : บทสนทนาสำหรับการสอบถาม/ให้ข้อมูลแก่ผู้รับบริการ

- Have you ever tried Traditional Thai Massage ? คุณเคย(ใช้บริการ)นวดแผนไทยมาบ้างหรือเปล่าครับ

- How often do you have Thai massage ?คุณนวดแผนไทยบ่อยแค่ไหนคะ

- Where did you have Thai massage ?คุณเคยนวดแผนไทยจากที่ไหนครับ

ที่เคาน์เตอร์บริการ ( Service Counter)

- Do you have the customer card ? คุณมีบัตรสมาชิกหรือยังคะ

- Please fill in your details / Fill the form, please. กรุณากรอกรายละเอียดของคุณด้วยค่ะ

- Did you register here ?คุณเคยลงทะเบียนที่นี่หรือยังครับ

- Please use this card when you visit us. กรุณาใช้บัตรนี้เมื่อคุณมารับบริการที่นี่นะคะ

- We open everyday. เราเปิดบริการทุกวันครับ / ค่ะ

- We open from Tuesday to Sunday and from 8.30 a.m to 9.00 p.m. เราเปิดบริการวันอังคารถึงวันอาทิตย์ ตั้งแต่ 8.30 น. ถึง สามทุ่มค่ะ

- Do you need an appointment ? คุณต้องการนัดในครั้งต่อไปไหมคะ

- This TTM Practitional gives body massage service. พนักงานนวดท่านนี้ให้บริการนวดตัวค่ะ


- This TTM Practitional gives foot service. พนักงานนวดท่านนี้ให้บริการนวดเท้าค่ะ

- We have ten TTM practitionals. เรามีพนักงานนวดทั้งหมด 10 คนครับ

*** หมายเหตุ : TTM Practitioner ย่อมาจาก Traditional Thai Massage Practitioner อ่านว่า : เทริ่ด-ดิ๊-เชิ่น-เนิ้ล ไท มาส-ซาจ แพรค-ทิช-ชั่น-เน่อะ หมายถึง : บุคลากรนวดแผนไทยหรือพนักงานนวดแผนไทย การสอบถามความต้องการใช้บริการของลูกค้า ก่อนที่จะให้บริการนวดแผนไทยแก่ลูกค้าต่างชาตินั้น ผู้ให้บริการจำเป็นจะต้องสอบถามความต้องการของลูกค้าก่อน ว่าต้องการรับบริการประเภทใด เพราะในการให้บริการ นวดแผนไทยนั้น มีหลากหลายรูปแบบ อาทิ การนวดตัว การนวดฝ่าเท้า การนวดน้ำมัน เป็นต้น ดังนั้นเราสามารถ บอกลูกค้าได้ว่า เรามีบริการนวดชนิดใดบ้างเพื่อให้บริการแก่พวกเขา

ตัวอย่างเช่น

I can give you a foot massage. ผม/ดิฉันให้บริการนวดฝ่าเท้าครับ/ค่ะ

I can give you a body massage.ผม/ดิฉันให้บริการนวดตัวครับ/ค่ะ

We can give you an oil massage. พวกเรามีบริการนวดน้ำมันครับ/ค่ะ

We can give you a herbal massage. พวกเรามีบริการนวดประคบด้วยสมุนไพรครับ/ค่ะ

ในการถามความต้องการของลูกค้าว่าต้องการรับบริการ ประเภทไหน เราสามารถใช้ประโยคต่อไปนี้ ในการสนทนา

เช่น

Which one do you prefer? คุณต้องการรับบริการนวดแบบไหนครับ/คะ

I can give you a foot massage and a body massage. Which one do you prefer? ดิฉันมีบริการนวดเท้า และนวดตัว คุณจะรับบริการ แบบไหนดีคะ

We can give you a back massage, an oil massage and a herbal massage. Which one do you prefer?เรามีบริการนวด คลายเครียด(นวดหลังและคอ) นวดน้ำมัน และนวดประคบสมุนไพร คุณต้องการรับบริการแบบไหนดีคะ

What would you like?  คุณต้องการ(ชอบ)แบบไหนครับ/คะ

We can give you a foot massage, a body massage, an oil massage and a herbal massage. What would you like? เรามีบริการนวดเท้า นวดตัว นวดน้ำมัน นวดประคบสมุนไพร คุณต้องการรับบริการแบบไหนดีคะ

What kind of massage would you like?  คุณต้องการรับบริการนวดแไหนครับ/คะ

We can give you a foot massage, a body massage, an oil massage and a herbal massage. What kind of massage would you like? เรามีบริการนวดเท้า นวดตัว นวดน้ำมัน นวดประคบสมุนไพร คุณต้องการรับบริการแบบไหนดีคะ

หมายเหตุ : โดยทั่วไปการนวดแผนไทยจะมี 2 ประเภท ได้แก่ การนวดแบบราชสำนักและแบบเชลยศักดิ์ และประเภทที่นิยม และพบเห็นได้ทั่วไปคือการนวดแบบเชลยศักดิ์ (General massage or Cha-loi-sak massage) ดังนั้นผู้ให้บริการนวดสามารถบอกข้อมูล เหล่านี้ให้แก่ผู้รับบริการได้

เช่น

I will give you the general massage or Cha-loi-sak massage. ผม/ดิฉันจะนวดแบบทั่วไปหรือแบบเชลยศักดิ์ให้แก่คุณครับ/คะ

การถามและตอบเกี่ยวกับค่าบริการนวด ในการให้บริการนวดแผนไทยแก่ลูกค้าชาวต่างชาตินั้น ยังมีอีกเรื่องหนึ่งที่เราจะต้องรู้นั่นก็คือ วิธีการตอบ เมื่อลูกค้า สอบถามอัตราค่าบริการ ซึ่งเป็นที่แน่นอนว่า การที่เราจะสามารถ ตอบได้นั้น เราต้องเข้าใจในคำถามเสียก่อน บางร้านค้าอาจจะติด ป้ายบอกอัตราค่าบริการไว้ที่หน้าร้านเพื่อความสะดวกต่อการ รับทราบข้อมูลและการตัดสินใจของลูกค้าที่สัญจรผ่านไปมา

ตัวอย่าง : ป้ายบอกราคา / อัตราค่าบริการ

SERVICE RATE TRADITIONAL THAI MASSAGE อัตราค่าบริการ การนวดแผนไทย(โบราณ)

1/2 hr.                           150          Baht  ครึ่งชั่วโมง(30 นาที)           150           บาท
1 hr.                              250          Baht  หนึ่งชั่วโมง                       250           บาท
1 hr.(with herbs)             300          Baht  หนึ่งชั่วโมง(ด้วยสมุนไพร)    300           บาท

FOOT REFLEXOLOGY MASSAGE   นวดกดจุดสะท้อนฝ่าเท้า
 
  การสอบถามอัตราค่าบริการที่ลูกค้าชาวต่างชาตินิยมใช้

- How much? ราคา(ค่าบริการ)เท่าไหร่คะ

- How much is it? ราคา(ค่าบริการ)เท่าไหร่คะ

- How much does it cost? ราคา(ค่าบริการ)เท่าไหร่คะ

- What is the cost? ราคา(ค่าบริการ)เท่าไหร่คะ

- How much is it per hour? ราคาชั่วโมงละเท่าไหร่ครับ

- How much is it for one hour? คิดราคาชั่วโมงละเท่าไหร่คะ

- How much is it for half an hour? คิดราคาเท่าไหร่ครับ สำหรับการนวดครึ่งชั่วโมง

- How much is it for 30 minutes? คิดราคาเท่าไหร่คะ สำหรับการนวด 30 นาที

- How much is it for two hours? นวด 2 ชั่วโมง คิดราคาเท่าไหร่ครับ

การตอบอัตราค่าบริการ ให้กับลูกค้าชาวต่างชาติทราบ

เช่น

-  200 baht for foot massage, Miss. ราคา 200 บาทสำหรับการนวดเท้าค่ะคุณผู้หญิง

- 300 baht for body massage, Mister. ราคา 300 บาทสำหรับการนวดตัวครับ คุณผู้ชาย

- 250 baht for oil massage, Madam.ราคา 250 บาทสำหรับการนวดน้ำมันค่ะ คุณผู้หญิง

- 350 baht for herbal massage, Sir.ราคา 350 บาทสำหรับการนวดสมุนไพรค่ะ ท่าน

- 300 baht per hour. ราคาชั่วโมงละ 300 บาทครับ

- 100 baht for one hour. ราคาชั่วโมงละ 100 บาทค่ะ

- 150 baht for half an hour. ราคา 150 บาทสำหรับ(การนวด) ครึ่งชั่วโมงครับ

- 500 baht for two hours. ราคา 500 บาทสำหรับ(การนวด) 2 ชั่วโมงครับ

- 1,000 baht for three hours. ราคา 1,000 บาทสำหรับ(การนวด)สามชั่วโมงค่ะ

- 1,500 baht for six hours. ราคา 1,500 บาทสำหรับ(การนวด)หกชั่วโมงค่ะ

ตัวอย่าง

- Two hundred baht for foot massage, four hundred baht for body massage and total six hundred baht, Madam. สองร้อยบาทสำหรับการนวดเท้า สี่ร้อยบาทสำหรับการ นวดตัว รวมทั้งหมด 600 บาทค่ะ คุณผู้หญิง

- One hundred baht for foot massage, three hundred baht for herbal massage and total four hundred baht, Mister . หนึ่งร้อยบาทสำหรับการนวดเท้า สามร้อยบาทสำหรับ การนวดตัว รวมทั้งหมด 400 บาทครับ คุณผู้ชาย

การขอต่อเวลารับบริการนวดแผนไทย การนัดหมายเวลาให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการอีก

ประโยคต่อไปนี้ในการสอบถาม/พูดคุยกับลูกค้า เกี่ยวกับการขอต่อเวลารับบริการนวด

ลูกค้าจะพูดประโยคประมาณนี้

- Extend the massage time, please. โปรดต่อเวลานวดให้กับผมหน่อยครับ

- Please continue to massage me. โปรดนวดต่อไปให้ดิฉันด้วยค่ะ พนักงานนวด

 ประโยคที่เราตอบลูกค้า

- All right, Mister/ Madam. ได้ครับ/ค่ะ คุณผู้ชาย/คุณผู้หญิง

เราอาจจำเป็นต้องถามเวลาที่ลูกค้าต้องการต่อเวลานวด

เช่น

- How long do you want me to continue massaging? คุณต้องการต่อเวลานวดไปนานเท่าไหร่ครับ

โดยลูกค้าอาจจะตอบกลับมาว่า

- Half an hour, please. ครึ่งชั่วโมงครับ

- One hour, please. หนึ่งชั่วโมงค่ะ

- Two hours, please. สองชั่วโมงครับ



- Massage me for another 30 minutes, please.โปรดนวดต่อให้ดิฉันอีก 30 นาทีด้วยค่ะ

- Massage me for another one hour, please.  โปรดนวดต่อให้ผมอีก 1 ชั่วโมงด้วยครับ

- Massage me for another 2 hours, please. โปรดนวดต่อให้ดิฉันอีก 2 ชั่วโมงด้วยค่ะ

- Massage me for another half an hour, please. โปรดนวดต่อให้ผมอีกครึ่งชั่วโมงด้วยครับ

พนักงานนวด

- Yes, Sir. ได้ครับ/ได้ค่ะ

- All right, Miss. ได้ครับ/ได้ค่ะ คุณผู้หญิง

เราสามารถเสนอหรือนัดหมายเวลาให้ลูกค้ากลับมาใช้บริการ นวดกับเราอีกครั้งได้

เช่น

พนักงานนวด

- Would you like another massage later ? คุณต้องการจะมารับบริการนวดอีกไหมคะ

- Would you like to return for another massage later? คุณอยากจะกลับมารับบริการนวดอีกไหมครับ

ลูกค้า

- Yes, I would. ใช่ครับ/ใช่ค่ะ หรือ

- No, I wouldn’t. ไม่ละครับ/ไม่ละค่ะ

ตัวอย่าง การสนทนานัดหมายเวลาที่ลูกค้าจะกลับมาใช้บริการ นวดอีก

พนักงานนวด : Would you like to return for another massage later? คุณอยากจะกลับมารับบริการนวดอีกไหมคะ

ลูกค้า : Yes, I would. (เยส ไอ วู๊ด) ใช่ครับ

พนักงานนวด : When do you want it?  คุณต้องการจะกลับมารับบริการอีกเมื่อไหร่คะ

ลูกค้า : This evening. เย็นนี้ครับ
        - Tomorrow afternoon. บ่ายวันพรุ่งนี้ครับ
        - Next Monday morning. วันจันทร์หน้าตอนเช้าค่ะ
        - Next Sunday evening. วันอาทิตย์หน้าตอนเย็นค่ะ
        - On Friday next week. วันศุกร์หน้าครับ
        - How about next Tuesday at around 3 o’clock. บ่าย 3 โมง วันอังคารหน้าเป็นไงครับ

พนักงานนวด : It’s O.K. I will be waiting for you. ได้ครับ แล้วผมจะรอ / ได้ค่ะ แล้วดิฉันจะรอ

การบอกให้ลูกค้าตรวจสอบสิ่งของ และการนำสิ่งของกลับไปคืนให้ลูกค้า ลูกค้าที่เข้ามาใช้บริการนวดกับเรา บางครั้งจำเป็นจะต้อง มีการเปลี่ยนเสื้อผ้าและถอดเครื่องประดับออกจากร่างกายบ้าง เพื่อความสะดวกในการให้บริการ และเมื่อนวดเสร็จเราก็ควรบอกให้ ลูกค้าตรวจสอบสิ่งของต่างๆ ก่อนออกจากร้าน

การพูดให้ลูกค้าตรวจสอบสิ่งของก่อนออกจากร้าน

- Please check your belongings before you leave. กรุณาตรวจสอบสิ่งของของคุณก่อนออกไปด้วยนะคะ

- Please check your things before you leave. กรุณาตรวจสอบสิ่งของของคุณก่อนออกไปด้วยนะครับ

การพูดเตือนไม่ให้ลูกค้าลืมสิ่งของต่างๆ ทิ้งไว้

- Please take your belongings with you. โปรดนำสิ่งของของคุณติดตัวไปด้วยครับ

- Please take your things with you. โปรดนำสิ่งของของคุณติดตัวไปด้วยค่ะ

ตัวอย่าง การสนทนาเมื่อลูกค้าลืมสิ่งของต่างๆ ทิ้งไว้

ลูกค้า   - I left my handbag here. ดิฉันลืมกระเป๋าถือไว้ที่นี่ค่ะ
          - I left my umbrella here. ดิฉันลืมร่มไว้ที่นี่ค่ะ
          - I left my wallet here.  ผมลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่นี่ครับ
          - I left my earrings here. ดิฉันลืมต่างหูไว้ที่นี่ค่ะ
          - I left my purse here.  ดิฉันลืมกระเป๋าสตางค์ไว้ที่นี่ค่ะ
          - I left my bracelet here. ดิฉันลืมกำไลไว้ที่นี่ค่ะ

 
กรณีที่เราหาสิ่งของที่ลูกค้าลืมไว้ไม่พบ เราควรพูดขอโทษ แล้วบอกไปว่าเราหาสิ่งของนั้นไม่เจอ

พนักงานนวด - Sorry. I cannot find it.ขอโทษค่ะ ดิฉันหาสิ่งนั้นไม่พบ
                  - Sorry. I cannot find them.ขอโทษค่ะ ดิฉันหาสิ่งของเหล่านั้นไม่พบ
                  - Sorry. I cannot find your lost thing.ขอโทษครับ ผมหาสิ่งของของคุณที่สูญหายไม่พบ
                  - Sorry. I cannot find your lost things. ขอโทษค่ะ ดิฉันหาสิ่งของของคุณ(หลายชิ้น) ที่สูญหายไม่พบ

การต่อรองราคางานบริการนวด ที่บางครั้งผู้รับบริการอาจจะขอต่อรองราคากับร้านค้า หรือผู้ให้ บริการบ้างในบางครั้ง

 ตัวอย่างประโยคที่ใช้ในการต่อรองราคาของลูกค้า

- Can you give me a discount?  คุณสามารถให้ส่วนลดแก่ดิฉันได้บ้างไหมคะ
- Can you lower the price? คุณสามารถให้ส่วนลดแก่ผมได้บ้างไหมครับ
- Could I get it at a discount? ดิฉันจะได้รับส่วนลดบ้างไหมคะ
- What is the final price? ราคาสุดท้าย(ขาดตัว)เท่าไหร่คะ


ตัวอย่างประโยคที่ใช้โต้ตอบการต่อรองราคาของลูกค้าถ้าสามารถลดได้ให้ตอบว่า
- Yes, I can. แล้วตามด้วยราคาที่สามารถลดได้
- Yes, I can. 200 baht, Madam. ลดได้(เหลือ) 200 บาทค่ะ คุณผู้หญิง
- Yes, I can. 100 baht, Mister. ลดได้ (เหลือ) 100 บาทครับ คุณผู้ชาย

ถ้าเราไม่สามารถลดราคาให้ลูกค้าได้ ให้ตอบว่า

- No, I can’t, Miss. ดิฉันไม่สามารถลดราคาให้คุณได้ค่ะ
- No, I cannot, Mister. This is the final price. ดิฉันไม่สามารถลดราคาให้คุณได้ นี่เป็นราคาสุดท้ายแล้วค่ะ

ตัวอย่างการสนทนาต่อรองราคาค่าบริการ

ผู้ให้บริการ    - Good afternoon, Sir. Would you like a Thai massage? สวัสดี(ตอนบ่าย)ค่ะคุณผู้ชาย ต้องการรับบริการนวดแผนไทยไหมคะ

ผู้รับบริการ : Good afternoon. What is the cost? สวัสดี(ตอนบ่าย)ครับ ราคาเท่าไหร่ครับ

ผู้ให้บริการ : 150 baht for foot massage, 300 baht for body massage and 400 baht for herbal massage. ร้อยห้าสิบบาทสำหรับการนวดเท้า สามร้อยบาท สำหรับการนวดตัว และสี่ร้อยบาทสำหรับการนวด ประคบสมุนไพรค่ะ

ผู้รับบริการ : Can you give me a discount?  คุณสามารถให้ส่วนลดแก่ผมได้บ้างไหมครับ

ผู้ให้บริการ : Yes, I can. Which one do you prefer? ได้ค่ะ คุณต้องการรับบริการนวดประเภทไหนคะ

ผู้รับบริการ : Body massage. นวดตัวครับ

ผู้ให้บริการ : 250 baht for a body massage, Mister. สองร้อยห้าสิบบาทสำหรับการนวดตัวค่ะ คุณผู้ชาย

รับบริการ : O.K. I will do it. ตกลง ผมจะลองดูครับ

ให้บริการ : With pleasure, come this way, please. ด้วยความยินดี เชิญทางนี้เลยค่ะ

การบอกเล่าถึงอาการเจ็บป่วย การสอบถามปัญหาสุขภาพว่า ลูกค้ามีปัญหาอะไรหรือไม่นั้น มีประโยชน์แก่ผู้ให้บริการเป็นอย่างยิ่ง เพราะจะทำให้ผู้ให้บริการ รับทราบข้อมูลเบื้องต้นเกี่ยวกับสุขภาพของผู้รับบริการ ซึ่งจะนำ ไปสู่การปฏิบัติ ในการให้บริการที่ถูกต้องและมีประสิทธิภาพ ในภาษาอังกฤษมีประโยคที่ใช้สนทนาโต้ตอบอยู่อย่างหลากหลาย

ตัวอย่างการสนทนาสั้นๆ ง่ายๆ ได้แก่

ถาม : Are you healthy? สุขภาพคุณดีใช่ไหมครับ/ค่ะ

ตอบ : Yes, I am. ใช่ครับ/ใช่ค่ะ หรือ No, I’m not. I don’t feel good.ไม่ครับ ผมรู้สึกไม่ค่อยสบาย
         Yes, I am. But now I feel stress. ใช่ค่ะ แต่ตอนนี้ดิฉันรู้สึกเครียด

เมื่อรับฟังปัญหาจากลูกค้าแล้วผู้ให้บริการควรพูดว่า

- I will try to make you feel better. ผม/ดิฉันจะพยายามทำให้คุณรู้สึกดีขึ้นครับ/ค่ะ

ตัวอย่างการสอบถาม/บอกเล่าเกี่ยวกับอาการเจ็บป่วยของลูกค้า

- Where do you have the bruise ? ไม่ทราบว่าคุณฟกช้ำบริเวณไหนบ้างครับ

- Please tell me where does it hurt ? กรุณาบอกดิฉันว่าคุณเจ็บ(ปวด)บริเวณไหนด้วยคะ

- May I know what’s wrong with you ? ดิฉันขอทราบอาการของคุณหน่อยค่ะ

- Please tell me where do you feel pain ? กรุณาบอกดิฉันด้วยว่าคุณเจ็บ (ปวด) ตรงไหน

ตัวอย่างการตอบของลูกค้าถึงอาการเจ็บปวด

- I have a bad upper back. ผมปวดเมื่อย(บริเวณ)หลังช่วงบนครับ

- I have a bad legs. ดิฉัน(มีอาการ)เมื่อย/ปวดที่ขาค่ะ

- I feel stiff with my neck. ผมรู้สึกเมื่อยที่คอครับ

- My left ankle hurts. ข้อเท้าข้างซ้ายของผมเจ็บ(ปวด)ครับ

- My forearms hurt. ดิฉันปวดบริเวณต้นแขนทั้งสองข้างค่ะ

- I have an ache with my lower back. ดิฉันปวดเมื่อยที่หลังช่วงล่างค่ะ

- I have a problem with my feet. ดิฉันมีปัญหาที่เท้า(ทั้งสองข้าง)ค่ะ

- I have a problem with my calfs. ผมมีปัญหากับน่อง(ทั้งสองข้าง)ครับ

- I feel stiff with my back. ดิฉันรู้สึกเมื่อยที่หลังค่ะ

- I have an ache with my hip. ดิฉันปวดเมื่อยที่สะโพกค่ะ

- My legs pain because I have been standing all day. ขาของผมปวดเพราะผมยืนมาทั้งวันเลยครับ

- My back hurts because I lifted heavy things. หลังของดิฉันปวดเพราะยกของหนักมาค่ะ

- My calfs hurt because I have been walking all day.น่อง(ทั้งสองข้าง)ของดิฉันปวดเพราะเดินมาทั้งวันเลยค่ะ

บางครั้งนอกจากลูกค้าชาวต่างชาติ จะบอกให้เราทราบถึง อาการเจ็บปวดหรือปวดเมื่อยตรงไหนแล้ว เขาอาจจะพูดแสดง ความต้องการใช้บริการนวดของเราว่า

- I would like a massage to help my legs. ผมอยากจะรับบริการนวดเพื่อช่วยเหลือ(อาการ) ขาทั้งสองข้าง ครับ

- I would like a massage to help my shoulders. ดิฉันอยากจะรับบริการนวดเพื่อช่วยเหลือ(อาการ) หัวไหล่ ทั้งสองข้างค่ะ

- I would like a massage to help my kneecap. ผมอยากจะรับบริการนวดเพื่อช่วยเหลือ(อาการ)ที่สะบ้าครับ

- I would like a massage to help my wrist. ผมอยากจะรับบริการนวดเพื่อช่วยเหลือ(อาการ)ที่ข้อมือครับ

- I would like a massage to help my hip.ดิฉันอยากจะรับบริการนวดเพื่อช่วยเหลือ(อาการ)ที่สะโพกค่ะ

การพูดถึงประโยชน์ของการนวดแผนไทย

 ตัวอย่างประโยคสนทนาในการพูดถึงประโยชน์ของการนวด

- This massage will help your neck.  การนวดนี้จะช่วยทำให้คอของคุณดีขึ้นค่ะ

- This massage will help your feet. การนวดนี้จะช่วยทำให้เท้าของคุณดีขึ้นครับ

- This massage will help your arm. การนวดนี้จะช่วยทำให้แขนของคุณดีขึ้นค่ะ

- This massage will help your leg. การนวดนี้จะช่วยทำให้ขาของคุณดีขึ้นครับ

- This massage will help your back. การนวดนี้จะช่วยทำให้หลังของคุณดีขึ้นครับ

- This massage will relieve your strain. การนวดนี้จะช่วยทำให้คุณคลายเครียดได้ครับ

- This massage will relieve your tension. การนวดนี้จะช่วยทำให้คุณคลายเครียดได้ค่ะ

- A foot massage will relieve stress. การนวดเท้าจะช่วยบรรเทาอาการเครียดได้ค่ะ

- A facial massage will relieve tension. การนวดหน้าจะช่วยบรรเทาอาการเครียดได้ค่ะ

- A back massage will relieve strain. การนวดหลังจะช่วยบรรเทาอาการเครียดได้ค่ะ

- A finger massage will relax your hands. การนวดนิ้วมือจะช่วยให้มือของคุณได้ผ่อนคลายค่ะ

- A back massage will relax your back and neck. การนวดหลังจะช่วยให้หลังและคอของคุณผ่อนคลายครับ

- A toe massage will relax your foot. การนวดนิ้วเท้าจะช่วยให้เท้าของคุณได้ผ่อนคลายครับ การแนะนำลูกค้าหลังรับบริการนวด

- Drink at least 8 glasses of warm water daily. ดื่มน้ำอุ่นอย่างน้อยวันละ 8 แก้ว

- Please get plenty of rest. กรุณาพักผ่อนให้เพียงพอ

- Please drink a big glass of warm water after being massaged.กรุณาดื่มน้ำอุ่นแก้วใหญ่ๆหลังจากการนวด

- Please exercise regulary. กรุณาออกกำลังกายอย่างสม่ำเสมอ

- Please don’t take any cold shower an hour after being massaged. ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากการนวด กรุณาอย่าอาบน้ำเย็นนะครับ

- Please do not wash your feet with cold water an hour after being massaged. ภายใน 1 ชั่วโมงหลังจากการนวดเท้า กรุณาอย่าล้างเท้าด้วยน้ำเย็นนะคะ

- Please avoid eating unwholesome food, such as ; pickled products, alcoholic everages and pain killers. โปรดหลีกเลี่ยงการรับประทานอาหารแสลง เช่น ของหมักดอง เครื่องดื่มที่มีแอลกอฮอล์ และยาระงับปวด

การพูดคุยเกี่ยวกับการรับรองวิชาชีพนวดแผนไทย มีบางครั้งที่ลูกค้าชาวต่างชาติอาจจะสนใจอยากรับบริการ นวดกับเรา แต่ยังไม่แน่ใจในความปลอดภัย สำหรับเรื่องนี้ ลูกค้าชาวต่างชาติบางคนค่อนข้างจะเคร่งครัดมาก เพราะเขาถือว่าหากได้รับการนวดที่ไม่ถูกต้องตามหลักวิชาการแล้ว อาจจะทำให้เกิดความเสียหายแก่เขาได้ เพราะฉะนั้นเขาก็อาจจะต้องสอบถาม ที่มาที่ไปของการประกอบอาชีพของเราเสียก่อน โดยการสอบถามเกี่ยวกับการรับรองวิชาชีพของผู้ให้บริการอย่างเราๆ ก่อนที่จะรับบริการ

 ตัวอย่าง : ประโยคสนทนาในการสอบถาม / พูดคุยเกี่ยวกับการรับรองวิชาชีพนวด

 คำถาม : - Where did you learn to massage? คุณเรียนการนวดมาจากไหนครับ/คะ

คำตอบ : - I learned at Ruksukapab Traditional Thai Massage. ดิฉันเรียนมาจาก รักษ์สุขภาพนวดแผนไทยค่ะ

             - I learned at Wat Po in Bangkok.ดิฉันเรียนมาจากวัดโพธิ์ค่ะ

             - I learned at ……………....………...........…..…..ผม/ดิฉันเรียนมาจาก............

คำถาม : - Do you have any certification? คุณมีประกาศนียบัตรรับรองหรือเปล่าครับ/คะ

คำตอบ : - Yes, I do. หรือ - No, I don’t. ดิฉันมีค่ะ (โน ไอ ด๊นท์ ) ผมไม่มีครับ

คำถาม : - How long have you been massaging? คุณทำงานนวดนี้มานานเท่าไหร่แล้วคะ

            - How long have you been doing this? คุณทำงานนวดนี้มานานเท่าไหร่แล้วครับ

คำตอบ : - I have been massaging for 3 years. ดิฉันทำงานนวดมาแล้วเป็นเวลา 3 ปีค่ะ

             - I have been doing this for half year. ผมทำงานนวดมาแล้วเป็นเวลาครึ่งปีครับ

             - I have been massaging for 10 years. ดิฉันทำงานนวดมาเป็นเวลา 10 ปีแล้วค่ะ

             - I have been doing this for one year. ผมทำงานนวดมาเป็นเวลาหนึ่งปีแล้วครับ

คำถาม : - When did you learn to massage? คุณเรียนการนวดมาเมื่อไหร่ครับ

คำตอบ : - Last year. หรือ In 1998. เมื่อปีที่แล้วครับ ในปี ค.ศ. 1998(พ.ศ.2541)ค่ะ

             - Last month. หรือ In 2004. เมื่อเดือนที่แล้วค่ะ ในปี ค.ศ. 2004(พ.ศ.2547)ค่ะ

การให้คำแนะนำ แก่ลูกค้าก่อนให้บริการนวดแผนไทย ในการให้บริการนวดแผนไทยนั้น ก่อนที่จะให้บริการนวด เราจะต้องให้ลูกค้าชาวต่างชาติเตรียมตัวก่อนรับบริการ ซึ่งประกอบ ไปด้วย

 A. สถานประกอบการส่วนใหญ่มักจะให้ลูกค้าถอดรองเท้า เครื่องประดับต่างๆ ออกจากร่างกายเสียก่อนที่จะเข้ารับบริการนวด ซึ่งรวมถึงสัมภาระ สิ่งของต่างๆ ของลูกค้าด้วย

ตัวอย่าง

- Take off your shoes, please.  กรุณาถอดรองเท้า(ของคุณ)ด้วยครับ

- Take off any jewelry, please.  กรุณาถอดเครื่องประดับ(ที่สวมใส่อยู่)ด้วยค่ะ

- Take off your watch, please. กรุณาถอดนาฬิกา(ข้อมือ)ของคุณด้วยค่ะ

- Take off your eyeglasses, please. กรุณาถอดแว่นตา(ของคุณ) ด้วยค่ะ

- Keep your belongings with you, please. กรุณาเก็บสิ่งของไว้กับตัวด้วยค่ะ

- Keep your things with you, please. กรุณาเก็บสิ่งของไว้กับตัวด้วยค่ะ

- Keep your jewelry with you, please. กรุณาเก็บเครื่องประดับไว้กับตัวคุณด้วยค่ะ

B. ต่อจากนั้น มักจะให้ลูกค้าทำความสะอาดร่างกาย บางส่วนที่จะทำการนวด เช่น เท้า ขา เป็นต้น ในสถานที่ที่ทาง สถานประกอบการจัดเตรียมไว้

ตัวอย่าง

- Wash your feet, please. กรุณาล้างเท้า(ทั้ง 2 ข้างของคุณ)ด้วยค่ะ

- Please have your feet cleaned. กรุณาทำความสะอาดเท้า(ของคุณ)ด้วยครับ

- Wash your hands, please. กรุณาล้างมือ(ทั้ง 2 ข้างของคุณ)ด้วยค่ะ

- Wash your legs, please. กรุณาล้างขา(ของคุณ)ด้วยครับ

C. หลังจากนั้นจะให้ลูกค้าเปลี่ยนเสื้อผ้าเป็นชุดลำลองที่ทาง สถานประกอบการจัดไว้ให้ เพื่อง่ายต่อการให้บริการนวด

ตัวอย่าง

- Go to the changing room, please.เชิญที่ห้องเปลี่ยนเครื่องแต่งตัวค่ะ

- Please change your clothes in this room. กรุณาเปลี่ยนเสื้อผ้าที่ห้องนี้ค่ะ

- Change your clothes, please. กรุณาเปลี่ยนเสื้อผ้าของคุณด้วยครับ
 - Please wear these loose clothes.  กรุณาสวมเสื้อผ้าหลวมๆ เหล่านี้ด้วยค่ะ

- These are loose clothes that you can wear.เหล่านี้เป็นเสื้อผ้าหลวมๆ ที่คุณสามารถใส่ได้ค่ะ

- Please keep your key locker. กรุณารับกุญแจตู้เก็บของด้วยครับ

 คำสั่งที่ใช้ในการปรับเปลี่ยนอิริยาบถหรือเปลี่ยนท่าในการนวด ประโยคคำสั่งที่สุภาพต่างๆ
ตัวอย่าง เช่น

- Come this way to the massage room, please.เชิญทางนี้เพื่อไปห้องนวดค่ะ

- Please sit down on the foot massage chair.เชิญนั่งบนเก้าอี้สำหรับนวดเท้าค่ะ

- Please sit on the chair and put your feet on this stool. เชิญนั่งบนเก้าอี้และวางเท้าของคุณไว้บนเก้าอี้รองเท้าตัวนี้

- Please adjust the back of the chair to your comfort. โปรดปรับระดับพนักของเก้าอี้ตามความสบายของคุณค่ะ

- Rest both of your feet on this stool. พักเท้าของคุณลงบนเก้าอี้รองเท้าตัวนี้ค่ะ

- Please roll up your pants above the knees. กรุณาพับขากางเกงของคุณไว้เหนือเข่า

- Relax and enjoy, if you hurt, please let me know. ทำตัวให้สบายๆ หากรู้สึกเจ็บ โปรดบอกฉันด้วยค่ะ

- Please stretch your legs.โปรดเหยียดขาด้วยค่ะ

- Please bend your left knee. กรุณางอเข่าซ้ายขึ้นด้วยค่ะ

- Please raise up your feet. กรุณายกเท้า(ทั้งสองข้าง)ขึ้นด้วยค่ะ

- Please straight out your foot. กรุณาวางเท้า(หนึ่งข้าง)ตรงๆ ด้วยค่ะ

- Rest your right foot on this stool. พักเท้าข้างขวาของคุณลงบนเก้าอี้รองเท้าตัวนี้

- Please roll up your sleeves above the elbows. กรุณาพับแขนเสื้อ(ทั้งสองข้าง)ของคุณไว้เหนือข้อศอกด้วยครับ

- If you are ready, please lie on your back. ถ้าคุณพร้อมแล้ว กรุณานอนหงายด้วยครับ

- Lie on your stomach, please.โปรดนอนคว่ำด้วยค่ะ

- Lie on your back, please. โปรดนอนหงายด้วยครับ

- Lie on your left side, please. โปรดนอนตะแคงซ้ายด้วยครับ

- Lie on your right side, please. โปรดนอนตะแคงขวาด้วยค่ะ

- Please bend both of your knees. กรุณางอเข่าทั้งสองข้างด้วยครับ

- Give me your left hand please. กรุณาส่งมือซ้ายคุณให้ดิฉันด้วยค่ะ

- Give me your right hand please. กรุณาส่งมือขวาคุณให้ดิฉันด้วยค่ะ

- Please turn to your left side. กรุณานอนตะแคงซ้ายด้วยค่ะ

- Please turn to your right side. กรุณานอนตะแคงขวาด้วยค่ะ

- Please raise up both of your legs. โปรดยกขาทั้งสองข้างของคุณขึ้น

- Please raise up your left leg. กรุณายกขาซ้ายขึ้นด้วยค่ะ

- Please let me have both of your hands. กรุณาส่งมือทั้งสองข้างของคุณมาให้ดิฉันด้วยค่ะ

- Please sit cross legged facing the wall. โปรดนั่งขัดสมาธิ แล้วหันหน้าไปทางข้างฝาผนังด้วยครับ

- I am going to press a little harder on your foot. ดิฉันจะกดน้ำหนักให้มากขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยบนเท้าของคุณ

- Allow me to massage your arm, your head and your back please. อนุญาตให้ฉันนวดแขน ศรีษะ และหลังของคุณด้วยค่ะ

- I will press a little harder on your back.  ผมจะกดให้หนักขึ้นกว่าเดิมเล็กน้อยบนหลังของคุณครับ

- Close your eyes, please.  กรุณาหลับตาด้วยค่ะ

- Don’t be tense, please. โปรดอย่าเกร็งนะคะ

- Please relax. กรุณาทำตัวสบายๆ นะครับ

- Sit down, please. กรุณานั่งลงด้วยค่ะ

- Please lift your left arm.  โปรดยกแขนซ้ายของคุณขึ้นด้วยค่ะ

- Please lift your right arm.โปรดยกแขนขวาของคุณขึ้นด้วยครับ

- Please lower your arms. กรุณาลดแขน(ทั้งสองข้าง) ต่ำลงด้วยค่ะ

- Please raise your head.  กรุณายกศรีษะของคุณขึ้นด้วยครับ

- Please raise your chin.  กรุณาเงยหน้าขึ้นด้วยค่ะ

- Please lower your chin. กรุณาก้มหน้าลงด้วยครับ

- Please raise your head slowly. กรุณายกศรีษะของคุณขึ้นอย่างช้าๆด้วยค่ะ

- Please hold my hand. กรุณาจับที่มือของดิฉันด้วยค่ะ

- Please squeeze my hand. กรุณาบีบที่มือของฉันด้วยค่ะ

- Please make a fist. กรุณากำหมัดด้วยครับ

- Please spread your finger apart. กรุณาแยกนิ้วมือของคุณออกจากกันด้วยค่ะ

- Please raise both of your arms up.  กรุณายกแขนทั้งสองข้างขึ้นด้วยครับ

- Please stretch your legs out. โปรดเหยียดขาทั้งสองข้างของคุณ(ออกไป)ด้วยครับ

- Please stretch your arms out. โปรดเหยียดแขนทั้งสองข้างของคุณ(ออกไป)ด้วยค่ะ

การสอบถามความรู้สึกของผู้รับบริการขณะทำการนวด ประโยคที่ใช้

เช่น
- Are you feeling OK ? คุณรู้สึกสบายดีไหมครับ
- Are you feeling all right?  คุณรู้สึกสบายดีไหมคะ
- Are you feeling better?  คุณรู้สึกสบายขึ้นไหมครับ
- How do you feel ? คุณรู้สึกอย่างไรบ้างคะ
- Do you feel pain ? คุณรู้สึกเจ็บไหมคะ
- Do you feel well ? รู้สึกสบายดีไหมครับ
- Is it too hard for you ? แรงไปไหมคะ
- Is it too light for you ? เบาไปไหมครับ
- Do you feel ache around this area? คุณรู้สึกเจ็บบริเวณนี้ไหมคะ
- Am I massaging too hard? ผมนวดแรงไปหรือเปล่าครับ
- Am I massaging too soft? ดิฉันนวดเบาไปหรือเปล่าคะ
- Am I massaging too strong?  ผมนวดแรงไปหรือเปล่าครับ
- Am I massaging too weak? ดิฉันนวดเบาไปหรือเปล่าคะ

 ลูกค้าสามารถตอบได้ว่า

- Yes, a bit too hard. ใช่ แรงไปหน่อยครับ
- Yes, a bit too soft. ใช่ เบาไปหน่อยค่ะ

 ตัวอย่างการตอบของลูกค้าเมื่อถูกสอบถาม ถ้าลูกค้ารู้สึกสบายดี จะตอบว่า

- Yes, I am. ครับ ผมรู้สึกสบายดี
- Yes, much better.ค่ะ ดิฉันรู้สึกดีขึ้นมาก
- Yes, a little. ค่ะ รู้สึกดีขึ้นบ้าง

ถ้าลูกค้ารู้สึกไม่ค่อยสบาย หรือน้อยกว่าเท่าที่ควรจะเป็น จะตอบว่า

- No, I’m not. ไม่ ผม/ดิฉันไม่รู้สึกดีขึ้นเลย
- No, I don’t. ไม่ ผม/ดิฉันไม่รู้สึกดีขึ้นเลย

 ถ้าลูกค้าบอกว่าไม่ค่อยสบาย เราควรพูดขอโทษไปก่อน แล้วต่อด้วยคำพูดที่ว่า เราจะพยายามทำให้เขารู้สึกดีขึ้น

 เช่น

- Sorry, Mister/Madam.ขอโทษค่ะ คุณผู้ชาย/ คุณผู้หญิง
- I will try to make you feel better. ดิฉันจะพยายามทำให้คุณรู้สึกสบายขึ้น/ดีขึ้นค่ะ

 การพูดคุยเกี่ยวกับสุขภาพของลูกค้า ส่วนใหญ่แล้วลูกค้าที่จะมารับบริการนวดนั้น มักจะมี อาการปวดเมื่อยหรือไม่สบายตัวในที่ใดที่หนึ่ง ซึ่งเขามักจะบอกเล่า อาการให้เราฟัง แต่ถ้าเขาไม่บอก เราก็สามารถสอบถามจากเขาได้

ตัวอย่างการพูดคุย/สอบถามเกี่ยวกับสุขภาพของลูกค้า

ผู้ให้บริการ :  Are you healthy? สุขภาพของคุณดีใช่ไหมครับ
ลูกค้า :  Yes, I am. หรือ No, I am not.  ใช่ครับ / ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ / ค่ะ

ผู้ให้บริการ :  Is your health all right ? สุขภาพของคุณดีใช่ไหมคะ
ลูกค้า :  Yes, it is. หรือ No, it is not. ใช่ครับ / ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ / ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Do you have any disease? คุณมีโรคประจำตัวหรือเปล่าครับ
ลูกค้า : Yes, I do. หรือ No, I do not. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Did you have any operations? คุณเคยรับการผ่าตัดมาหรือเปล่าครับ
ลูกค้า :  Yes, I did. หรือ No, I did not. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Do you have any specific illness?  คุณมีโรคประจำตัวไหมคะ
ลูกค้า :  Yes, I do.หรือ No, I don’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Do you have any health problems? คุณมีปัญหาสุขภาพหรือเปล่าครับหรือพูดสั้นๆ           Any health problems ? คุณมีปัญหาสุขภาพหรือเปล่าคะ
ลูกค้า :  Yes, I do. หรือ No, I don’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ตัวอย่างการพูดคุย/สอบถามเกี่ยวกับสุขภาพของลูกค้า

ผู้ให้บริการ : Do you feel pain around this area ?  รู้สึกเจ็บ(ปวด)บริเวณนี้ไหมครับ
ลูกค้า :  Yes, I do.หรือ No, I don’t.ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ :  Does it hurt at all time ?  มันเจ็บ/ปวดตลอดเวลาใช่ไหมคะ
ลูกค้า : Yes, it does. หรือ No, it doesn’t.ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Do you feel stress out ? คุณรู้สึกเครียดอยู่หรือเปล่าครับ
ลูกค้า : Yes, I do.  หรือ No, I don’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Do you pregnant ?คุณตั้งครรภ์หรือเปล่าคะ
ลูกค้า :  Yes, I do. หรือ No, I don’t. ใช่ค่ะ หรือ ไม่ใช่ค่ะ

ผู้ให้บริการ :  Are you on any medication ? ช่วงนี้คุณรับประทานยาอยู่ใช่ไหมคะ
ลูกค้า :   Yes, I am.หรือ No, I am not. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Are you having your monthly period right now คุณกำลังมีรอบเดือนอยู่ใช่ไหมคะ  ลูกค้า :   Yes, I am.หรือ No, I am not.ใช่ค่ะ หรือ ไม่ใช่ค่ะ
ผู้ให้บริการ :  Does your monthly period come regulary ? ประจำเดือนของคุณมาปกติใช่ไหมคะ ลูกค้า :  Yes, it does. หรือ No, it doesn’t. ใช่ค่ะ หรือ ไม่ใช่ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Have you ever had any operation or accident ? คุณเคยได้รับอุบัติเหตุหรือรับการผ่าตัดบ้างไหมครับ
ลูกค้า : Yes, I have. หรือ No, I haven’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ


ตัวอย่างการพูดคุย/สอบถามเกี่ยวกับสุขภาพของลูกค้า

ผู้ให้บริการ : Does someone in your family have heart disease or high blood pressure ? มีใครในครอบครัวของคุณเป็นโรค หัวใจหรือความดันสูงใช่ไหมคะ
ลูกค้า :  Yes, he does. หรือ No, he doesn’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Have you been sleeping well at night ? เมื่อคืนหลับสบายดีใช่ไหมครับ
ลูกค้า : Yes, I have. หรือ No, I haven’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Have you been eating normally? คุณรับประทานอาหารได้เป็นปกติ ใช่ไหมคะ
ลูกค้า : Yes, I have. หรือ No, I haven’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Do you exercise regulary ?  คุณออกกำลังกายเป็นประจำใช่ไหมครับ
ลูกค้า : Yes, I do.  หรือ No, I don’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Have you been having normal bowels movement ? คุณขับถ่ายเป็นปกติใช่ไหมครับ ลูกค้า :  Yes, I have. หรือ No, I haven’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ :  Do you have any pain in your knees, the top of the thigh or calf ? คุณเจ็บ(ปวด) บริเวณหัวเข่า ต้นขา หรือน่องใช่ไหมครับ
ลูกค้า : Yes, I do.  หรือ No, I don’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

ผู้ให้บริการ : Do you have any pain in your the top of the arm, elbow, wrist or hand ? คุณเจ็บ(ปวด) บริเวณต้นแขน ข้อศอก ข้อมือ หรือที่มือใช่ไหมครับ
ลูกค้า :  Yes, I do. หรือ No, I don’t. ใช่ครับ/ค่ะ หรือ ไม่ใช่ครับ/ค่ะ

















เครดิต  : https://sites.google.com/site/thaiwomeninczech/home/phasaenglish-pheux-xachiph-nwd-thiy

วันพฤหัสบดีที่ 29 สิงหาคม พ.ศ. 2556

May and Can

May แปลว่า สามารถ(จะ)

- ใช้แสดงเกี่ยวกับการขออนุญาต, ใช้แสดงความน่าจะเป็นไปได้/น่าจะทำได้/น่าจะสามารถเกิดขึ้น

Can แปลว่า สามารถ(จะ) - เป็นความสามารถที่จะทำอะไรต่อมิอะไรได้(ไม่ต้องการขออนุญาตใครก็ทำได้อยู่แล้ว), มีทักษะ/มีฝีมือ/มีความสามารถที่จะทำ (พูดง่ายๆว่า มีปัญญาจะทำก็แล้วกัน)


ตัวอย่างเช่น

May I turn on your radio? ขออนุญาตเปิดวิทยุได้ไหมคะ ?

แต่ถ้าเราถามว่า "Can I turn on your radio?" คำตอบที่ได้รับก็ คือ yes, you can ซึ่ง ไม่ได้หมายความว่าคุณขออนุญาติ แค่คุณใช้มือหมุนเปิด หรือว่า กดเปิดก็สามารถเปิดใช้งานได้แล้ว

Can you finish doing your homework before dinner? คุณสามารถทำการบ้านของคุณให้เสร็จก่อนอาหารเย็นได้มั้ย ? คือถามถึงความสามารถว่าคุณทำได้หรือเปล่า

Can you believe The Meteorological Department said it may rain tomorrow? คุณสามารถเชื่อได้ไหมที่กรมอุตุบอกว่าพรุ่งนี้ฝนอาจจะตก (ก็บอกอยู่ว่าอาจจะอ่ะนะ อิอิ).






















ขอบคุณที่มา : http://www.เรียนภาษาอังกฤษจากเพลง.com/2011/02/may-can.html

Let's sing a song













วันจันทร์ที่ 8 กรกฎาคม พ.ศ. 2556

ท่องศัพท์วันละนิด ภาษาอังกฤษราบรื่น

วันนี้เรามารู้คำศัพท์ต่าง ๆ กันนะจ๊ะ ว่ามีความหมายว่าอย่างไรบ้าง

Keep = รักษา

Always = เสมอ

Faith = ศรัทธา

Trust = ไว้ใจ

Holding on = ครอบครอง

Hug = กอด

Spirit = วิญญาณ, จิตใจ

Way = เส้นทาง

Forever = ตลอดไป

Eternal = นิรันดร

Obstacle = อุปสรรค

Just = แค่... เพียง

Even though = ถึงแม้ว่า... ก็ตาม

Still หรือ Till = ยังคง * Till เป็นคำย่อนะจ๊ะ

Between = ระหว่าง

Lose = แพ้

Never = ไม่เคย

Life = ชีวิต

Lesson = เรียนรู้

Gotta = จะ... * เป็นคำศัพท์แสลงของอังกฤษ ไม่มีในดิกชันนารีจ่ะ

Seperate = แยก ห่าง

Warm = อุ่น

Warmth = ความอบอุ่น

Living for... = อยู่เพื่อ...

Worth = คุ้มค่า, สมควร, ควรค่า

Believe = ความเชื่อ

Cry = ร้องไห้

Tears = น้ำตา

Lucky = โชคดี

Water = น้ำ

Sky = ท้องฟ้า

Kiss = จูบ

Lip = ริมฝีปาก

Away = ไม่อยู่, ไปแล้ว * Past away แปลว่า เสียชีวิต

Take = รับ, เอามา

Give = ให้

Won't = จะไม่... * มาจากคำว่า Will not

Wind = ลม

Wings = ปีก

Fade = โรยรา, ซีด, ตก (สีตก)

Time = เวลา

Moment = ช่วงเวลา

Fair = ความยุติธรรม

Last = สุดท้าย

Move = เคลื่อนไหว

All of = ทั้งหมด

Clear = สะอาด, สว่างไสว * ที่แปลว่า สว่างไสว ยกตัวอย่างประโยค เช่น... - It was a clear summer day (มันเป็นวันหนึ่ง ในฤดูร้อนที่สว่างไสว) ไม่ได้แปล่วาฤดูร้อนที่สะอาด

Another = อีกอัน/คนหนึ่ง

Too = อีกด้วย, เกินไป * ที่แปลว่า เกินไป ยกตัวอย่างกลุ่มคำ เช่น... - Too late (สายเกินไป, ช้าเกินไป)

Blood = เลือด

On & On = มากขึ้น และมากขึ้น, มากขึ้นไปอีก

Love = รัก 








ขอบคุณที่มาก : http://www.trueplookpanya.com/true/blog_diary_detail.php?diary_id=3080

วันอังคารที่ 23 เมษายน พ.ศ. 2556

ไฟดับ Let’s conserve the energy.

  เมื่อเช้าวานนี้กำลังหลับสบาย ๆ เลยปรากฏว่าฝนตก สักพักไฟดับคร้าบ พี่น้อง โอ้แม่เจ้า อย่างร้อนเลยเพราะว่านอนเปิดพัดลม หุหุ เอ๊ะ ! แล้วคำว่าไฟดับ ในภาษาอังกฤาเขาว่ายังไงนะ ไปดูกันเลยจ้า

There was a power cut when i watching TV. ไฟฟ้าดับตอนที่ฉันกำลังดูทีวีอยู่พอดีเลย

The light went off while i was watching telly.ไฟฟ้าดับตอนที่ฉันกำลังดูทีวีอยู่พอดีเลย


go off = ไฟดับ

There will be a power cut from nine o’clock in the morning until four o’clock in the afternoon. วันพรุ่งนี้ไฟจะดับตั้งแต่เวลา 9.00 น. - 4.00 น.

The outages usually happen at a time of high demand as people used air conditioners to cope with heat.ไฟฟ้ามักจะดับในช่วงที่มีคนใช้ไฟเยอะเพื่อเปิดแอร์สู้ความร้อน

There is a power cut/ outage / blackout at my house. ที่บ้านฉันไฟฟ้าดับ

There was a blackout at the University dormitory last night.  เมื่อคืนที่หอพักมหาลัยไฟฟ้าดับ

It is not clear when power supplies will be restored to normal.ไม่ทราบว่าไฟฟ้าจะใช้ได้ช่วงไหน

Some urban area may experience a series of blackouts at a time of high demand.ในเขตเมืองอาจมีไฟฟ้าดับหลายครั้งเนื่องมาจากมีปริมาณการใช้ไฟมาก



There's nothing good or bad. Just the thinking make it so.

โลกนี้ไม่มีอะไรที่ดีหรือไม่ดีอย่างเที่ยงแท้หรอก พวกเราคิดและตัดสินกันไปเองทั้งนั้น

วันศุกร์ที่ 29 มีนาคม พ.ศ. 2556

break ในแต่ละความหมาย (ต่อ)

Break even คือ เสมอตัว ถัวเฉลี่ย ไม่ขาดทุนหรือกำไรผิดกันเท่าใด หรือพอสมน้ำสมเนื้อ

ตัวอย่างเช่น

If you gamble you are lucky when you break even.ถ้าคุณเล่นการพนัน คุณก็โชคดีแล้วที่ไม่ได้ไม่เสีย

หรืออีกประโยคหนึ่งเช่น

The storekeeper made many sales, but his expenses were so high that he just broke even.เจ้าของร้านนั้นขายสินค้าได้มากแต่ค่าโสหุ้ยของเขาสูงเหลือเกิน เมื่อหักกลบลบกันแล้วก็ถัวกันไปพออยู่ได้แค่นั้นเอง

Break from คือ ทำให้หัก หรือแยกออกจากกัน

ตัวอย่างเช่น

He broke a piece of bread from the loaf.เขาบิขนมปังชิ้นหนึ่งออกมาจากก้อนใหญ่นั้น

Break ground คือ เริ่มต้นโครงการ หรือดำเนินการขั้นต้น เปิดงานอะไรทำนองนั้น

ตัวอย่างเช่น

City officials and industrial leaders were there as the company president broke ground for its new building. เจ้าหน้าที่จากฝ่ายรัฐ ฯ และบรรดาบุคคลชั้นนำด้านอุตสาหกรรมได้ไปร่วมงานกับประธานกรรมการของบริษัทนั้นต้นที่ดำเนินพิธีการเริ่มงานก่อสร้างตึกหลังใหม่

หรือ

The school broke new ground with reading lessons that taught students to guess the meaning of new words. คือ ทางโรงเรียนได้เริ่มต้นบทสอนการอ่านหนังสือในระบบใหม่ซึ่งฝึกหัดให้นักเรียนสามารถทายความหมายของคำศัพท์ใหม่ ๆ ให้ได้อย่างถูกต้อง

Break in เหมือนที่กล่าวไว้ข้างต้น แปลว่าบุกรุกเข้าไปในสถานที่ หรืออาคารใด ๆ โดยไม่มีการพูดพล่ามทำเพลงให้อีกฝ่ายหนึ่งรู้ตัวล่วงหน้า

ตัวอย่างเช่น

Thieves broke in while the family was away.หัวขโมยบุกเข้าไปในบ้านเขาตอนที่ไม่มีใครในครอบครัวอยู่บ้านกันเลย

หรือ

The secretary broke in to say that a telegram had arrived, คือ เจ้าเลขาหน้าห้องบุกเข้ามาขัดจังหวะเพื่อแจ้งว่ามีโทรเลขมาถึงแล้ว

Break in นี้ ยังสามารถนำไปใช้ในความหมายว่ามีการเริ่มต้นฝึกหัดหรือฝึกสอนให้ใครรู้จักทำอะไรให้ได้สักอย่างหนึ่ง

ตัวอย่างเช่น

The chief engineer broke in a new employee as a machine operator.หัวหน้าช่างได้ฝึกหัดลูกจ้างคนใหม่ให้สามารถทำงานเป็นพนักงานประจำเครื่องจักร์กลต่อไป

หรือ

John broke in a new pair of shoes. คืออีตาจอห์นพยายามใส่รองเท้าคู่ใหม่ของเขาให้คุ้นเพื่อป้องกันมิให้มันกัดเท้า

Break into หรือ break in เป็นสำนวนที่มีความหมายค่อนข้างคล้ายกัน สามารถใช้แทนกันได้ในหลายกรณี

แต่ Break into ใช้ในความหมายทำนองว่า

Jimmy broke into a sweat. นายจิมมี่ถึงกับเหงื่อตกทีเดียว

Break off พอกันทีขอเลิกแค่นี้ดีกว่า

ตัวอย่างเช่น

The speaker was interrupted so often that he broke off and sat down.องค์ปาฐกโดนคนขัดจังหวะบ่อยมากจนแกทนไม่ไหวเลยเลิกพูดและกลับไปนั่งยังที่ของแกเสียแล้ว

Jane broke off with her best friend.ยายเจนได้เลิกลาจากเพื่อนคนที่สนิทชิดเชื้อไปเสียแล้ว








ขอบคุณที่มา http://vipatthaitranslator.blogspot.com

break ในแต่ละความหมาย

Brake ที่แปลว่า “เครื่องห้ามล้อรถ

break in : บุกรุกเข้าไปในสถานที่

break up สิ้นสุดความสัมพันธ์

break down ผิดหวังมากๆ จนเสียศูนย์กันไป บางครั้งถึงกับสลบ สิ้นสติได้

breakthrough (noun ติดกัน) แปลว่า พัตนาจนผ่านจุดสำคัญจุดหนึ่ง

A break time = ช่วงเวลาพัก

Career break = ช่วงเวลาพักจากทำงานอาชีพ เพื่อไปทำอะไรสักอย่างก่อน

Coffee break = ช่วงเวลาพักสั้น ๆ เพื่อไปดื่มน้ำชากาแฟ ฯลฯ

Commercial break = ช่วงเวลาของการโฆษณาของสถานีวิทยุหรือสถานีทีวี เพื่อโฆษณาสินค้า

Summer break = การพักผ่อนตามฤดูกาล ซึ่งอาจเป็นฤดูร้อน หรือ เมื่อใดก็ได้

Break of the day = ยามฟ้าเริ่มสาง หรือเวลาใกล้รุ่ง

Give me a break = เป็นคำพูดที่ใช้เมื่อเกิดความรำคาญในการกระทำหรือคำพูดของอีกฝ่ายหนึ่ง หรือเมื่ออีกฝ่ายหนึ่งกำลังพูดเรื่องซึ่งไม่น่าเชื่อถือเสียแล้ว

Give somebody a break = เป็นคำพูดที่ใช้เมื่อต้องการขอร้องใครคนหนึ่งเพื่อให้โอกาส หรือความกรุณาต่อใครอีกคนหนึ่ง

Breaking Story หรือ Breaking News หมายถึงข่าวหรือเรื่องที่กำลังจะเกิดขึ้น ยังไม่จบ ข้อมูลอาจไม่ครบ แต่ว่ามันก็สำคัญเลยต้องประกาศทันที

Lunch break หรือการพักเพื่อรับประทานอาหารเที่ยง

the mid-morning break พักครึ่งเวลาภาคเช้า

Break away” = ตีจาก, ผละจาก หรือ อาการที่ทำให้หลุดออกไปโดยฉับพลันทันที

ตัวอย่างเช่น

Several Democratic PMs have decided to break away to join the richer Republicans.พวกผู้แทนฝ่ายพรรคประชาธิปไตยหลายคนได้ตัดสินใจตีจากเพื่อไปเข้าพวกกับฝ่ายริพับลิคันซึ่งร่ำรวยมากกว่า

Break down = คำนี้เมื่อใช้เป็นคำกริยา สามารถมีความหมายแตกต่างกันออกไปได้หลายสถาน สุดแต่การสร้างประโยค เช่น เกิดขลุกขลักหรือขัดข้องลง

ตัวอย่างเช่น

The telephone system has broken down. ระบบงานโทรศัพท์ได้เกิดขัดข้องลงเสียแล้ว

หรือในความหมายว่า “เอามาแยกออกเป็นส่วนย่อย ๆ”

ตัวอย่างเช่น

Water can be broken down into hydrogen and oxygen.น้ำนั้นสามารถเอามาแยกออกให้เป็นก๊าซไฮโดรเจนและออกซิเจนได้

หรือในความหมายว่า “เสียหรือชำรุดไปแล้ว หรือเกิดขัดข้องลงใช้งานไม่ได้เสียแล้ว”

ตัวอย่างเช่น

The car broke down after only half an hour’s driving. รถยนต์คันนี้ต้องมาขัดข้องไม่สามารถใช้ได้เสียแล้วทั้ง ๆ ที่วิ่งมาได้เพียงครึ่งชั่วโมงแค่นั้นเอง

Break even คือ เสมอตัว ถัวเฉลี่ย ไม่ขาดทุนหรือกำไรผิดกันเท่าใด หรือพอสมน้ำสมเนื้อ

ตัวอย่างเช่น

If you gamble you are lucky when you break even.ถ้าคุณเล่นการพนัน คุณก็โชคดีแล้วที่ไม่ได้ไม่เสีย

หรืออีกประโยคหนึ่งเช่น

The storekeeper made many sales, but his expenses were so high that he just broke even.เจ้าของร้านนั้นขายสินค้าได้มากแต่ค่าโสหุ้ยของเขาสูงเหลือเกิน เมื่อหักกลบลบกันแล้วก็ถัวกันไปพออยู่ได้แค่นั้นเอง

อ่านต่อ

วันจันทร์ที่ 18 มีนาคม พ.ศ. 2556

decide (v.) ตัดสิน กำหนด ลงความเห็น ตัดสินใจ



วันนี้เสนอคำว่า decide ซึ่งเป็น Verb จะมีความหมายว่าอะไรบ้างไปดูตัวอย่างกันเลยจ้า...

decide(v.) แปลว่า ตัดสิน กำหนด ลงความเห็น ตัดสินใจ

decide the fate of mankind. ตัดสินชะตากรรมของมนุษยชาติ

decide one’s own future. เลือกทางเดินในอนาคตของตน

decide an issue. ตัดสินปัญหา

I wanted to be a guard, but circumstances decided otherwise. ผมอยากเป็นยามรักษาความปลอดภัยแต่สถานการณ์บังคับให้เป็นอย่างอื่น ( สมัยเด็กๆ ผู้เขียนเห็นน้าท่านหนึ่งเป็น ชอบมาก แต่งตัว เท่ห์มาก มีกระบองด้วย ชอบมาก อยากเป็นบ้าง)

decide about the date. กำหนดวัน

decide as to which is the best. ตัดสินว่าอันไหนดีที่สุด

decide a question by tossing a coin. ตัดสินปัญหาโดยโยนหัวโยนก้อย

decide by oneself. ตัดสินใจด้วยตนเอง











ขอบคุณที่มา :  English by Example A Dictionary of English Collocations with Thai Translations. 

และ http://www.gotoknow.org/posts/50214

และขอบคุณภาพประกอบทางอินเตอร์เน็ต

วันอังคารที่ 19 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2556

Proverb สุภาษิต

You reap what you sow. ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

reap แปลว่า เก็บเกี่ยวความหมายคล้ายคำว่า harvest, cultivate

sow ออกเสียงว่า So หมายความว่า หว่านเมล็ดพืชไว้

You reap what you sow.

ความหมายดังนี้

1. Everything that you do has repercussions. It comes back to you one way or another. ทุกสิ่งทุกอย่างที่คุณทำจะส่งผลแน่นอน มันจะส่งผลย้อนกลับมาหาคุณไม่ทางใดก็ทางหนึ่ง

2. You cannot escape the consequences of your actions. What you do comes back to you. คุณไม่สามารถหนีจากผลของการกระทำของคุณไปได้ สิ่งที่คุณทำจะย้อนกลับมาหาคุณอย่างแน่นอน

3. You will see the long-term effects of your actions.คุณจะเห็นผลระยะยาวที่ตามมาจากการกระทำของคุณอย่างแน่นอน

หรือ

Do good things and good things will happen to you.Do bad things and bad things will happen to you.

ตัวอย่างเช่น

A: I can't believe that guy is so mean to me!ฉันไม่อยากจะเชื่อเลยว่าผู้ชายคนนั้นใจร้ายกับผมมาก

B: You stole his girlfriend, man! You reap what you sow!ก็นายไปแย่งแฟนเขามา ทำดีได้ดี ทำชั่วได้ชั่ว

อีกหนึ่งสำนวนที่ความหมายคล้ายกันคือ

What goes around comes around. กงเกวียนกำเกวียน

ความหมายคือ

1. Your actions all have consequences. Don't ever be fooled into thinking that your actions don't have consequences. Don't think you can get away with bad choices even if you don't seem to get caught. Remember verse seven tells us that God cannot be mocked. He sees it all. You reap what you sow.การกระทำของคุณส่งผลแน่นอน อย่าไปคิดว่าสิ่งที่ทำไปแล้วจะไม่ส่งผลและอย่าไปคิดว่าคุณจะหนีผลจากการกระทำของคุณได้

2. Watch the way you live your life because you reap what you sow.ใช้ชีวิตด้วยความระมัดระวังทั้งกาย วาจา ใจ เพราะหากคุณหว่านพืชเช่นไรคุณก็จะได้ผลเช่นนั้น















ขอบคุณ http://www.engtest.net/?status=detail&&type=03-16&&topic_id=2770
            http://www.ajarnadam.com