ตั้งแต่ Daybreak ยัน Day's End! มาร่วมเจาะลึก 30 กว่าสำนวนเกี่ยวกับ 'Day' ที่เจ้าของภาษาใช้กันทุกวัน เพิ่มความเก๋าให้กับภาษาอังกฤษของคุณด้วยการสื่อสารที่ลึกซึ้งและเป็นธรรมชาติยิ่งขึ้น!
🗓️ สำนวนกลุ่มที่ 1: การบอกช่วงเวลาและความถี่ (Time and Frequency)
ตัวอย่างประโยคใช้งาน
1. all day long (ทั้งวัน)
We drove all day long to get to the coast. (เราขับรถทั้งวันกว่าจะถึงชายฝั่ง)
The baby cried all day long yesterday. (เด็กทารกร้องไห้ทั้งวันเมื่อวานนี้)
I had to wait for the package all day long. (ฉันต้องรอพัสดุตลอดทั้งวัน)
She practiced piano all day long before the concert. (เธอซ้อมเปียโนทั้งวันก่อนคอนเสิร์ต)
It rained heavily all day long, so we stayed inside. (ฝนตกหนักทั้งวัน เราเลยอยู่แต่ข้างใน)
2. day and night (ทั้งวันทั้งคืน)
The construction crew worked day and night to finish the bridge. (ทีมก่อสร้างทำงานทั้งวันทั้งคืนเพื่อสร้างสะพานให้เสร็จ)
He studied day and night for his final exam. (เขาเรียนทั้งวันทั้งคืนเพื่อสอบไล่)
The factory operates day and night to meet demand. (โรงงานเปิดทำการทั้งวันทั้งคืนเพื่อตอบสนองความต้องการ)
She worries about her sick mother day and night. (เธอเป็นห่วงแม่ที่ป่วยทั้งวันทั้งคืน)
You can reach our customer service day and night. (คุณสามารถติดต่อฝ่ายบริการลูกค้าของเราได้ตลอดเวลา)
3. day after day (วันแล้ววันเล่า)
Day after day, I wake up and do the same routine. (วันแล้ววันเล่า ฉันตื่นมาทำกิจวัตรเดิมๆ)
She waited for his call day after day, but it never came. (เธอรอสายจากเขาวันแล้ววันเล่า แต่ก็ไม่เคยโทรมา)
The army marched day after day across the desert. (กองทัพเดินทัพวันแล้ววันเล่าข้ามทะเลทราย)
We faced the same technical issues day after day. (เราเจอกับปัญหาทางเทคนิคเดิมๆ วันแล้ววันเล่า)
It felt like time was passing slowly, day after day. (รู้สึกเหมือนเวลาผ่านไปช้าๆ วันแล้ววันเล่า)
6. the other day (วันก่อน/เมื่อไม่กี่วันมานี้)
I ran into an old friend the other day. (ฉันบังเอิญเจอเพื่อนเก่าวันก่อน)
Did you hear about the news the other day? (คุณได้ยินข่าววันก่อนไหม)
She mentioned moving to Canada the other day. (เธอพูดถึงการย้ายไปแคนาดาเมื่อไม่กี่วันมานี้)
I bought this new phone the other day. (ฉันซื้อโทรศัพท์เครื่องใหม่นี้วันก่อน)
He was asking about you the other day. (เขาถามถึงคุณเมื่อไม่กี่วันมานี้)
7. call it a day (เลิกงาน/พอแล้วสำหรับวันนี้)
We've been working for ten hours; let's call it a day. (เราทำงานมาสิบชั่วโมงแล้ว เลิกงานกันเถอะ)
The boss told us to call it a day due to the heavy snow. (เจ้านายบอกให้เราพอแค่นี้สำหรับวันนี้เพราะหิมะตกหนัก)
I think I'll call it a day and continue painting tomorrow. (ฉันคิดว่าฉันจะพอแค่วันนี้ แล้ววาดต่อพรุ่งนี้)
After four hours of intense study, they decided to call it a day. (หลังจากเรียนอย่างเข้มข้นมา 4 ชั่วโมง พวกเขาก็ตัดสินใจพอแล้วสำหรับวันนี้)
It’s 6 PM. Shall we call it a day? (นี่ 6 โมงเย็นแล้ว เลิกงานกันไหม)
ตัวอย่างบทสนทนา (Dialogues)
1. all day long (ทั้งวัน)
A: Why are you so tired? (ทำไมคุณถึงเหนื่อยขนาดนี้)
B: I was cleaning the house all day long. (ฉันทำความสะอาดบ้านทั้งวัน)A: Did you finish the report? (คุณทำรายงานเสร็จไหม)
B: Yes, I worked on it all day long. (เสร็จครับ ผมทำทั้งวัน)A: What did you watch? (คุณดูอะไรไปบ้าง)
B: I watched movies all day long. (ฉันดูหนังตลอดทั้งวัน)A: Is your phone battery dead? (แบตโทรศัพท์คุณหมดเหรอ)
B: Yes, I used it for gaming all day long. (ใช่ครับ ผมเล่นเกมทั้งวัน)A: Why is your voice hoarse? (ทำไมเสียงคุณแหบจัง)
B: I was singing karaoke all day long. (ฉันร้องคาราโอเกะทั้งวัน)A: Are the kids asleep yet? (เด็กๆ หลับหรือยัง)
B: Finally! They were running around all day long. (ในที่สุด! พวกเขาวิ่งเล่นทั้งวัน)A: Did you get a good tan? (คุณผิวแทนขึ้นไหม)
B: Of course, I was on the beach all day long. (แน่นอน ผมอยู่บนชายหาดทั้งวัน)A: Do you have any energy left? (คุณเหลือพลังงานอยู่ไหม)
B: Zero. I was packing boxes all day long. (ไม่เหลือเลยครับ ผมจัดกล่องทั้งวัน)A: How long was the flight delay? (เที่ยวบินล่าช้าไปนานแค่ไหน)
B: We waited all day long at the airport. (เราต้องรอที่สนามบินทั้งวัน)A: What kept you busy? (อะไรทำให้คุณยุ่ง)
B: Attending meetings all day long. (เข้าร่วมประชุมตลอดทั้งวัน)A: Did the repairman show up? (ช่างซ่อมมาหรือยัง)
B: Yes, he was here working all day long. (มาแล้วครับ เขาทำงานอยู่ที่นี่ทั้งวัน)A: Why didn't you answer my calls? (ทำไมคุณไม่รับสายฉัน)
B: I had my headphones on all day long. (ฉันใส่หูฟังตลอดทั้งวัน)A: Are the paintings finished? (ภาพวาดเสร็จไหม)
B: Almost. I was painting all day long. (เกือบแล้ว ผมวาดรูปทั้งวัน)A: Do you feel rested? (คุณรู้สึกได้พักผ่อนไหม)
B: No, I was traveling all day long. (ไม่ครับ ผมเดินทางทั้งวัน)A: What a mess! (อะไรจะเลอะเทอะขนาดนี้)
B: The dog was playing outside all day long. (หมาเล่นอยู่ข้างนอกทั้งวัน)
6. the other day (วันก่อน/เมื่อไม่กี่วันมานี้)
A: Did you talk to Mark recently? (คุณได้คุยกับมาร์คล่าสุดไหม)
B: Yes, I saw him the other day at the gym. (ใช่ครับ ผมเจอเขาวันก่อนที่ยิม)A: I need a new phone. (ฉันต้องการโทรศัพท์ใหม่)
B: I bought a good one the other day. I can recommend it. (ฉันซื้อเครื่องดีๆ มาเครื่องหนึ่งวันก่อน แนะนำได้นะ)A: Where did you get that jacket? (คุณได้เสื้อแจ็คเก็ตตัวนั้นมาจากไหน)
B: I found it at a vintage shop the other day. (ฉันเจอที่ร้านวินเทจวันก่อน)A: We need to buy some milk. (เราต้องซื้อนมหน่อย)
B: I thought you bought some the other day. (ฉันนึกว่าคุณซื้อมาแล้ววันก่อน)A: Is James back from his trip? (เจมส์กลับจากทริปหรือยัง)
B: Yes, I heard he was back the other day. (ใช่ครับ ผมได้ยินว่าเขากลับมาแล้ววันก่อน)A: Have you tried the new bakery? (คุณลองร้านเบเกอรี่ใหม่หรือยัง)
B: I went there the other day. It's great. (ฉันไปมาวันก่อน อร่อยมาก)A: Did you read this article? (คุณอ่านบทความนี้หรือยัง)
B: Yes, I was reading it the other day. (อ่านแล้วครับ ฉันอ่านมันเมื่อไม่กี่วันมานี้)A: Why is the window broken? (ทำไมหน้าต่างถึงแตก)
B: The neighbor's kid kicked a ball through it the other day. (ลูกของเพื่อนบ้านเตะบอลโดนมันแตกวันก่อน)A: Do you remember that film? (คุณจำหนังเรื่องนั้นได้ไหม)
B: Yes, I was just thinking about it the other day. (จำได้สิ ฉันเพิ่งนึกถึงมันวันก่อน)A: We haven't seen Sarah for ages. (เราไม่เจอซาร่าห์มานานแล้ว)
B: Really? I had a long chat with her the other day. (จริงเหรอ ฉันเพิ่งคุยกับเธออย่างยาวเมื่อไม่กี่วันมานี้)A: We should check the tire pressure. (เราควรเช็กแรงดันลมยางนะ)
B: I already had it checked the other day. (ฉันให้เขาเช็กไปแล้ววันก่อน)A: How is your sister doing? (น้องสาวคุณเป็นยังไงบ้าง)
B: She called me the other day, she sounds happy. (เธอโทรหาฉันวันก่อน ดูเธอมีความสุขดี)A: Did you pay the electricity bill? (คุณจ่ายบิลค่าไฟหรือยัง)
B: I paid it online the other day. (ฉันจ่ายออนไลน์ไปแล้ววันก่อน)A: Where did you get that scratch? (คุณได้รอยขีดข่วนนั้นมาจากไหน)
B: I fell off my bike the other day. (ฉันตกลงมาจากจักรยานวันก่อน)A: Do you still need that tool? (คุณยังต้องการเครื่องมืออันนั้นอยู่ไหม)
B: No, I bought one the other day. (ไม่แล้วครับ ผมซื้อมาแล้ววันก่อน)
🗓️ สำนวนกลุ่มที่ 2: สำนวนเพิ่มเติมเกี่ยวกับ "Day" (More Day Idioms)
ตัวอย่างประโยคและบทสนทนา (สำหรับสำนวนใหม่)
13. make someone's day (ทำให้ใครบางคนมีความสุขมาก)
Ex: Receiving that unexpected gift really made my day. (การได้รับของขวัญที่ไม่คาดคิดนั้น ทำให้ฉันมีความสุขมาก)
Ex: Your kind words completely made her day. (คำพูดที่ใจดีของคุณ ทำให้วันของเธอดีขึ้นอย่างสมบูรณ์)
Ex: A simple compliment can sometimes make a person's day. (คำชมง่ายๆ บางครั้งก็สามารถทำให้วันของใครบางคนดีได้)
Ex: When my dog ran to greet me, it made my day. (เมื่อสุนัขของฉันวิ่งมาทักทาย, มันทำให้ฉันมีความสุขมาก)
Ex: Getting the job offer finally made his day. (การได้รับข้อเสนองานนั้น ในที่สุดก็ทำให้วันของเขากลายเป็นวันที่ดี)
บทสนทนา
A: Why are you smiling? (ทำไมคุณยิ้ม)
B: The news made my day! (ข่าวนี้ทำให้ฉันมีความสุขมากเลย!)A: Did you hear the good news? (คุณได้ยินข่าวดีไหม)
B: Yes, it totally made my day. (ได้ยินครับ มันทำให้วันของผมดีขึ้นโดยสิ้นเชิง)A: I brought you flowers. (ฉันเอาดอกไม้มาให้คุณ)
B: Oh, thank you! You just made my day. (โอ้ ขอบคุณค่ะ! คุณทำให้ฉันมีความสุขมากเลย)A: The teacher praised your work. (ครูชมผลงานของคุณ)
B: Really? That makes my day! (จริงเหรอ นั่นทำให้ฉันมีความสุขมาก)A: I'm sending you a gift. (ฉันกำลังส่งของขวัญให้คุณ)
B: Even the thought makes my day. (แค่คิดถึงก็ทำให้ฉันมีความสุขมากแล้ว)A: What was the best part of today? (อะไรคือส่วนที่ดีที่สุดของวันนี้)
B: Finding ten dollars on the street. It truly made my day. (เจอเงินสิบดอลลาร์บนถนน มันทำให้ฉันมีความสุขจริงๆ)A: How was the meeting? (การประชุมเป็นอย่างไรบ้าง)
B: Exhausting, but the client's compliment made my day. (เหนื่อยมาก แต่คำชมจากลูกค้าทำให้ฉันมีความสุขมาก)A: You look cheerful! (คุณดูสดใสจัง)
B: My friend’s surprise visit made my day. (การมาเยี่ยมแบบเซอร์ไพรส์ของเพื่อนทำให้ฉันมีความสุขมาก)A: I got a promotion! (ฉันได้เลื่อนตำแหน่ง!)
B: Congratulations! That must have made your day. (ยินดีด้วยนะ! นั่นคงทำให้คุณมีความสุขมากๆ เลย)A: I just helped an old lady carry her bags. (ฉันเพิ่งช่วยคุณยายถือกระเป๋า)
B: I bet that made her day. (ฉันพนันได้เลยว่านั่นทำให้คุณยายมีความสุขมาก)A: Sorry I'm late. (ขอโทษที่ฉันมาสาย)
B: It’s okay, seeing you is enough to make my day. (ไม่เป็นไร แค่เห็นคุณก็พอแล้วที่จะทำให้ฉันมีความสุข)A: Look! I baked your favorite cookies. (ดูสิ! ฉันอบคุกกี้ที่คุณชอบ)
B: Wow, you made my day! (ว้าว, คุณทำให้ฉันมีความสุขมาก!)A: Did you win the lottery? (คุณถูกลอตเตอรี่เหรอ)
B: No, but I got an acceptance letter. It made my day. (เปล่าครับ แต่ผมได้รับจดหมายตอบรับ มันทำให้ฉันมีความสุขมาก)A: You did a great job on the presentation! (คุณทำได้ยอดเยี่ยมในการนำเสนอ!)
B: Thank you! Hearing that really made my day. (ขอบคุณครับ! การได้ยินแบบนั้นทำให้ฉันมีความสุขมากจริงๆ)A: I fixed your old broken clock. (ฉันซ่อมนาฬิกาเก่าที่เสียของคุณแล้ว)
B: You are the best! You truly made my day. (คุณดีที่สุด! คุณทำให้ฉันมีความสุขมากจริงๆ)
16. have seen better days (เคยอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้)
Ex: This old car has definitely seen better days. (รถคันเก่าคันนี้แน่นอนว่าเคยอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้)
Ex: My favorite pair of shoes are starting to look like they have seen better days. (รองเท้าคู่โปรดของฉันเริ่มดูเหมือนเคยอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้)
Ex: That old restaurant used to be popular, but it has seen better days. (ร้านอาหารเก่านั้นเคยเป็นที่นิยม แต่ตอนนี้ทรุดโทรมลงแล้ว)
Ex: The antique furniture in the attic has certainly seen better days. (เฟอร์นิเจอร์โบราณในห้องใต้หลังคานั้นแน่นอนว่าเคยอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้)
Ex: The economy is struggling; it has seen better days. (เศรษฐกิจกำลังลำบาก เคยดีกว่านี้)
บทสนทนา
A: Should we fix this chair? (เราควรซ่อมเก้าอี้นี้ไหม)
B: I think it has seen better days. Let's just buy a new one. (ฉันว่ามันเก่าเกินไปแล้ว ซื้อใหม่ดีกว่า)A: How is your old computer? (คอมพิวเตอร์เก่าของคุณเป็นอย่างไรบ้าง)
B: It has seen better days. It crashes every five minutes. (มันเคยดีกว่านี้ มันค้างทุกห้านาทีเลย)A: That jacket is torn. (แจ็คเก็ตตัวนั้นขาดแล้วนะ)
B: I know, it has seen better days. I should retire it. (รู้ครับ มันเก่ามากแล้ว ฉันควรเลิกใช้มัน)A: The stadium looks run down. (สนามกีฬาดูทรุดโทรมจัง)
B: Yes, it definitely has seen better days. (ใช่ครับ มันเคยดูดีกว่านี้แน่นอน)A: Are you going to keep that old tennis racket? (คุณจะเก็บไม้เทนนิสเก่าๆ อันนั้นไว้ไหม)
B: It has seen better days, but it has sentimental value. (มันเก่ามากแล้ว แต่มันมีคุณค่าทางจิตใจ)A: Look at this dilapidated building. (ดูอาคารที่ผุพังนี้สิ)
B: It surely has seen better days. (แน่นอนว่ามันเคยดีกว่านี้)A: The paint is peeling off the walls. (สีลอกออกจากผนังแล้ว)
B: The whole house has seen better days. (บ้านทั้งหลังอยู่ในสภาพที่ทรุดโทรมแล้ว)A: Is your favorite coffee mug broken? (แก้วกาแฟใบโปรดของคุณแตกเหรอ)
B: Yes, it has seen better days now. (ใช่ครับ ตอนนี้มันชำรุดมากแล้ว)A: Is that your motorbike? (นั่นคือมอเตอร์ไซค์ของคุณเหรอ)
B: Yes, but it has seen better days. (ใช่ครับ แต่มันเก่ามากแล้ว)A: Do you still use that phone? (คุณยังใช้โทรศัพท์เครื่องนั้นอยู่ไหม)
B: Sometimes, but it has definitely seen better days. (บางครั้งครับ แต่แน่นอนว่ามันเคยดีกว่านี้มาก)A: How was the hotel? (โรงแรมเป็นอย่างไรบ้าง)
B: It has seen better days. The wallpaper was peeling. (มันเคยดีกว่านี้ วอลเปเปอร์ลอกเลย)A: Your shoes have holes in them! (รองเท้าของคุณมีรูแล้วนะ!)
B: Well, they have seen better days after the hike. (ก็มันเก่ามากแล้วหลังจากการเดินป่า)A: That old monument looks neglected. (อนุสาวรีย์เก่านั้นดูถูกละเลยจัง)
B: Sadly, it has seen better days. (น่าเศร้าที่มันเคยอยู่ในสภาพที่ดีกว่านี้)A: I can't believe how worn out this book is. (ไม่อยากเชื่อเลยว่าหนังสือเล่มนี้จะเก่าขนาดนี้)
B: It's well-loved, but it has seen better days. (มันเป็นที่รักมาก แต่มันเคยดีกว่านี้)A: Is this the famous opera house? (นี่คือโรงละครโอเปร่าที่มีชื่อเสียงใช่ไหม)
B: Yes, though it has seen better days. It needs renovation. (ใช่ครับ แม้ว่ามันจะทรุดโทรมลงแล้ว มันต้องการการปรับปรุง)
ตัวอย่างประโยคและบทสนทนา
4. every single day (ทุกๆ วัน)
Ex: I drink coffee every single day. (ฉันดื่มกาแฟทุกๆ วัน)
Ex: She calls her mother every single day. (เธอโทรหาแม่ของเธอทุกๆ วัน)
A: Do you go to the gym often? (คุณไปยิมบ่อยไหม) B: Yes, I go every single day. (ใช่ครับ ผมไปทุกๆ วัน)
5. every other day (วันเว้นวัน)
Ex: We have a team meeting every other day. (เรามีการประชุมทีมวันเว้นวัน)
Ex: He visits his grandparents every other day. (เขาไปเยี่ยมปู่ย่าตายายวันเว้นวัน)
A: How often do you water the plants? (คุณรดน้ำต้นไม้บ่อยแค่ไหน) B: I water them every other day. (ฉันรดน้ำมันวันเว้นวัน)
7. some other day (วันหลัง)
Ex: Can we do this presentation some other day? (เราทำพรีเซนเทชั่นนี้วันหลังได้ไหม)
Ex: I'm too busy today, let's meet some other day. (วันนี้ฉันยุ่งเกินไป ไว้เจอกันวันหลังนะ)
A: Do you want to go shopping now? (คุณอยากไปซื้อของตอนนี้ไหม) B: Not today, some other day. (ไม่ใช่วันนี้ ไว้วันหลังเถอะ)
8. from day to day (เปลี่ยนไปวันต่อวัน/ไม่แน่นอน)
Ex: The weather here changes from day to day. (สภาพอากาศที่นี่เปลี่ยนไปวันต่อวัน)
Ex: His mood fluctuates from day to day. (อารมณ์ของเขาแปรปรวนวันต่อวัน)
A: How's the market looking? (ตลาดเป็นอย่างไรบ้าง) B: It changes drastically from day to day. (มันเปลี่ยนแปลงอย่างมากวันต่อวัน)
9. day in, day out (วันแล้ววันเล่า/ซ้ำๆ ซากๆ ทุกวัน)
Ex: Working in the factory was the same routine, day in, day out. (การทำงานในโรงงานเป็นกิจวัตรเดิมๆ วันแล้ววันเล่า)
Ex: The same boring task, day in, day out, made him quit. (งานที่น่าเบื่อเดิมๆ ซ้ำๆ ซากๆ ทุกวัน ทำให้เขาลาออก)
A: Don't you get tired of that music? (คุณไม่เบื่อเพลงนั้นเหรอ) B: Yes, they play it day in, day out here. (เบื่อครับ พวกเขาเปิดมันวันแล้ววันเล่าที่นี่)
คำค้นหา (Keywords):
Idioms with day, สำนวนภาษาอังกฤษ day, Day idioms, Call it a day, Make my day, Day in day out, The other day, Every single day, English idioms, คำศัพท์ภาษาอังกฤษ, การใช้ day, สำนวนบอกเวลา, สำนวนการทำงาน
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น