ค้นหาบล็อกนี้

วันศุกร์ที่ 21 สิงหาคม พ.ศ. 2558

Still (adv.) ยังคง , คง,ทั้ง ๆ ที่,สงบ, นิ่ง

Still (adv.) ยังคง , คง,ทั้ง ๆ ที่,สงบ, นิ่ง

มีการวางดังนี้ 


1. วางไว้หน้าคำกริยา 

2. ถ้าประโยคมีกริยาช่วย ให้วางไง้หน้าคำกริยาแท้ 

3. วางไว้ข้างหลัง Verb to be ในกรณีที่ verb to be ทำหน้าที่เป็นกริยาแท้ ของประโยค 

4. วางไว้ข้างหน้าคำที่แสดงการปฏิเสธ  


Tony still calls Kate regulary.
โทนี่ยังคงโทรหาเคทอย่างสม่ำเสมอ

Still, there was no response.
ยังคงไม่มีการตอบรับใด ๆ

Mom, I'm still hungry!
แม่ครับ ผมยังไม่อิ่มเลยครับ!


My great grandfather can still remember everything.
ปู่ทวด ของฉันยังคงจำทุกอย่างได้

Do you still live in Bangkok?
คุณยังอาศัยอยู่ที่กรุงเทพหรอ

It was, and still is, my favourite movie.
มันเป็นหนังที่ผมเคยชอบ และตอนนี้ก็ยังชอบอยู่

There weather was cold and wet. Still, we had a great time.
ทั้ง ๆ ที่อากาศหนาวเย็นมาก แต่พวกเราก็ยังสนุกกันเต็มที่

The weather is still cold.
 อากาศยังหนาวอยู่เลย

I wrote to them last month and I am still waiting for a reply. เดือนที่แล้ว ฉันได้เขียนจดหมายถึงพวกเขา และฉันยังคงกำลังรอการตอบกลับจากพวกเขา

It is ten o'clock and Tao is still in bed.

10 โมงแล้ว เต๋า ยังคงนอนอยู่บนเตียงอยู่เลย

When I went to bed, Tao was still working.

เมื่อฉันเข้านอน, เต๋ายังคงกำลังทำงานอยู่

I am still not tired. ฉันยังไม่เหนื่อย ** tired = เหนื่อย tried = พยายามที่เป็นรูปของอดีต ระวังเรื่องตัวสะกด**

Are you still living in the same house?
เธอยังอยู่บ้านหลังเดิมหรือเปล่า

Is it still raining?
ฝนยังคงกำลังตกอยู่หรือ?

Are your parents still living in Nakorn Sawan?
คุณพ่อคุณแม่ของเธอยังอยู่ที่นครสวรรค์ใช่มั้ย?

It was still raining, when she left her house.
ตอนที่เธอออกจากบ้านฝนยังตกอยู่เลย

if (conj.)

if (conj.) ในความหมายว่า "หรือไม่" ซึ่งใช้แทนคำว่า whether ในประโยค Indirect Question (ใช้เมื่อต้องการตอบคำถามแบบอ้อมๆ)

if ใช้ได้เฉพาะนำหน้า noun clause ที่เป็นกรรม เท่านั้น ส่วน whether ใช้ได้ทุกกรณี

And old man was wondering if his wife had a hearing problem.
ชายสูงอายุเกิดสงสัยว่าภรรยาเขาหูตึงหรือไม่

Do you know if he is at home now?
คุณทราบหรือเปล่าว่าตอนนี้เขาอยู่บ้านหรือเปล่า

I wonder if you'd be kind enough to tell us the story.
คุณพอจะเล่าเรื่องราวให้เราฟังได้มั้ย

I wonder if I should kick him in the butt.
ฉันควรเตะก้นเขาสักทีมั้ย

I can’t remember if I had already paid him.
ฉันจำไม่ได้ว่าจ่ายเงินเขาไปแล้วหรือยัง

Do you know if the principal is in his office.
คุณทราบหรือไเปล่าว่าท่านประธานอยู่ในออฟฟิศหรือไม่

I’m not sure if I will go to the party tonight.
ฉันไม่แน่ใจว่าฉันจะไปปาร์ตี้คืนนี้

I don’t know if I can do this job.
ฉันไม่แน่ใจว่าฉันสามารถทำงานนี้ได้













วันศุกร์ที่ 14 สิงหาคม พ.ศ. 2558

คำศัพท์ที่อ่านเหมือนกัน เขียนคล้ายกัน แต่หน้าที่ต่างกัน

a while และ awhile 

a while  เป็น noun หมายถึง ช่วงเวลาหนึ่ง หรือ ในขณะที่ มักจะมีคำว่า for อยู่นำหน้าอยู่ 

เช่น 

I will go to the mall for a while. If you need anything, just call me. ฉันจะไปห้างสักพักนะ ถ้ามีอะไรก็โทรมาละกัน 

awhile  เป็น adverb หมายถึงช่วงเลาสั้นๆ หรือ สักครู่ สังเกตว่าคำนี้จะไม่มี for นำหน้า 

เช่น 

I went to the mall awhile, mom called me to come back home. ฉันไปห้างครู่เดียวเอง แม่ก็โทรให้กลับบ้านแล้ว 

accept และ except 

accept  ออกเสียงว่า เอคเซ็พท์ (เน้นเสียงที่คำหลัง) มีความหมายว่า ยอมรับ ตอบรับ รับ หรือรับได้ 

เช่น 

They don't accept her as a friend. พวกเขาไม่ยอมรับเธอเป็นเพื่อน 

except ออกเสียงว่า อิคเซพท์ (เน้นเสียงที่คำหลัง) มีความหมายว่า ยกเว้น... นอกจาก... เว้นเสียแต่ว่า...ไม่รวม...หรือ นอกเหนือจาก...

เช่น 

I can eat everything except vegetable. ฉันกินได้ทุกอย่างยกเว้นผัก 

aboard และ abroad 

aboard อ่านว่า อะโบด หมายถึงการเดินทางโดยยานพาหนะ ในเรือ ในรถ ในรถไฟ หรือในเครื่องบิน 

เช่น 

All passenger went aboard the bus. ผู้โดยสารทั้งหมดเดินทางโดยรถบัส 

abroad อ่านว่า อะปรอด หมายถึง ในต่างประเทศ ต่างชาติ ต่างแดน หรือแปลว่าข่าวลือก็ได้

เช่น 

He studies abroad. เขาเรียนต่างประเทศ 

There is a rumor abroad. (ข่าว)ลือไปทั่ว

affect และ effect 

affect  อ่านว่าแอฟแฟ็ค หมายถึง มีผลกระทบต่อบางสิ่ง มีผลต่อบางสิ่ง กระทบกระทือน แกล้งท่า ส่วนใหญ่ใช้เป็น verb 

เช่น 

Sunless winter days affect my emotion. วันที่ไม่มีแดดในฤดูหนาวส่งผลต่ออารมณ์ของฉัน 

effect หมายถึง เป็นสาเหตุให้เกิดบางสิ่ง มีอิทธิพล เกิดผล ผลกระทบ ส่วนใหญ่ใช้เป็น noun 

เช่น 

Sunless winter day has an effect on my bad mood. วันที่ไม่มีแดดในฤดูหนาวเป็นสาเหตุที่ทำให้ฉันอารมณ์ไม่ดี 

any one และ anyone 

any one แปลว่า สักคน คนใดคนหนึ่ง หรือสักอัน เป็นการอ้างถึงคนๆเดียว หรือสิ่งๆเดียว โดยไม่เจาะจงชื่อ หรือเจาะจงว่าเป็นอันไหน แต่รับรู้ว่าอยู่ในกลุ่มใด หรือเกี่ยวข้องกับใคร 

เช่น 

If any one of his friends knows, this is your fault. ถ้าเพื่อนของเขาสักคนรู้ขึ้นมา มันก็เป็นความผิดของเธอนั่นแหละ 

anyone แปลว่า ใครก็ตาม ใครก็ได้ ใคร ๆ ไม่เจาะจงอะไรทั้งสิ้น 

เช่น 

Does anyone see my book? มีใครเห็นหนังสือของฉันไหม 

desert และ dessert 

desert  ออกเสียง เด้ดเสิ้ด หมายถึง ทะเลทราย 

เช่น 

He drew a picture of desert. เขาวาดรูปทะเลทราย 

dessert ออกเสียง ดีเสิ้ด หมายถึง ขนม ของหวาน ผลไม้และของหวาน

เช่น 

I like to have dessert after each meal. ฉันชอบทานของหวานหลังอาหารมื้อหลัก 

farther และ further 

farther ออกเสียง ฟาร์เธอะ หมายความว่า ไกลออกไป ห่างออกไป ไกลกว่า ใช้ในการพูดถึงระยะทาง 

เช่น 

If you are going to the that village, you have to drive farther. ถ้าคุณกำลังไปที่หมู่บ้านนั้น คุณต้องขับไกลออกไปอีก 

further ออกเสียง เฟอร์เธอะ หมายถึง ต่อไปอีก ขยายออกไปอีก เป็นการทำสิ่งใดสิ่งหนึ่งต่อไปจากเดิม 

เช่น 

She apologized already, but he keeps complaining further. เธอขอโทษไปแล้ว แต่เขาก็ยังบ่นไม่หยุด 

lessen และ lesson 

lessen ออกเสียง เลสเสิ่น หมายถึง ลดลง บรรเทา ลดน้อยลง ลดเหลือ

เช่น 

This medicine have lessened my pain. ยาตัวนี้บรรเทาความเจ็บของฉัน 

lesson หมายถึง บทเรียน การเรียน งวด

เช่น 

He has learned his lesson for being late. เขาได้บทเรียนจากการมาสายแล้วล่ะ 

quite และ quiet 

quite ออกเสียง ไคว้ท์ หมายถึง ทั้งหมด มาก ตรงกับคำในภาษาไทยว่า ทีเดียว ออกจะ พอดู เชียว แท้ ๆ

เช่น 
He is quite angry at her. เขาออกจะโมโหเธออยู่นะ 

quiet ออกเสียง ไคว้เอท หมายถึง เงียบ นิ่งเฉย เงียบสงบ เรียบ ๆ แผ่ว ๆ

เช่น 

You couldn't keep quiet, could you? เธอนี่อยู่เงียบๆไม่ได้เลยใช่ไหม 

sale และ sell 

sale เป็นคำนาม หมายถึง การขาย การขายเลหลัง จำนวนที่ขายได้ การจัดจำหน่าย

เช่น 

All my income is from my sale. รายได้ทั้งหมดของฉันมากจากการขายของฉันเอง 

sell เป็นคำกริยา หมายถึง ขาย 

เช่น 

He wants to sell his car. เขาอยากจะขายรถของเขา 

























ขอบคุณที่มา : https://bestkru.com/blog/2

สำนวนที่คนบางคนอาจจะยังไม่เคยใช้

Say hello to my little friend! เซอร์ไพรซ์ โดยการโชว์บางสิ่งที่เพื่อนคุณไม่ได้คาดหมายไว้ 

เกรงใจ = bother 

ตัวอย่าง ช่น

I don't want to bother you. ฉันไม่อยากรบกวนคุณ หรือแปลเป็นไทยง่ายๆก็ ฉันเกรงใจคุณ

Am I bothering you? ฉันรบกวนคุณอยู่รึเปล่าเนี่ย?

You had me at hello. คุณยอมตั้งแต่แรกแล้ว

After all, tomorrow is another day! ชีวิตยังมีวันพรุ่งนี้

Show me the money! ใช้เมื่อคุณต้องการหลักฐาน หรือ เงิน เพื่อให้คุณมั่นใจว่ามันคุ้มค่าที่จะทำหรือจะแลกมันมา

deserve it = สมน้ำหน้า 

ตัวอย่าง เช่น

You deserve it! สมน้ำหน้า!

You studied hard this term, you deserve the reward. เธอเรียนหนักมากเลยนะเทอมนี้ เธอก็สมควรได้รับรางวัล


have/has a thing about... = ปิ๊ง/ตกหลุมรัก 

ตัวอย่าง เช่น

Anna has a thing about Brian. แอนนาปิ๊งไบรอั้นอยู่

I have a crush on him. ฉันตกหลุมรักเขาซะแล้วล่ะ

flirt with = จีบ 

ตัวอย่าง เช่น

Jen is flirting with Paul. เจนกำลังจีบพอล

That guy is hitting on me! ผู้ชายคนนั้นกำลังตามจีบฉันอยู่ล่ะ!

Frankly, my dear, I don't give a damn. เอาตรงๆเลยนะ ที่รัก ฉันไม่สนใจอีกต่อไปแล้ว (จะไปไหนก็ไป 55)#Gone With The Wind 

Mama always said life was like a box of chocolates. You never know what you're gonna get.ณไม่มีทางรู้ว่าจะเกิดอะไรขึ้นกับชีวิตของคุณบาง เพราะชีวิตเต็มไปด้วยสิ่งที่ไม่ได้คาดหวัง #Forrest Gump 

follow the five precepts (of Buddhism) = ถือศีล 5 

ตัวอย่าง เช่น

I don't drink alcohol. I follow the five precepts. ฉันไม่ดื่มเหล้านะ ฉันถือศีล 5 น่ะ

affected = ดัดจริต 

ตัวอย่าง เช่น

That girl is so affected. เด็กคนนั้นดัดจริตมากเลย































ขอบคุณที่มา : https://bestkru.com/blog/8