ค้นหาบล็อกนี้

วันพฤหัสบดีที่ 9 กุมภาพันธ์ พ.ศ. 2555

สำนวนฮิตอเมริกัน

Act your age เลิกทำตัวเป็นเด็กซะที

ใช้พูดเวลาลูกเล็กเด็กแดง งอแง หรือพูดแล้วเถียงคอเป็นเอ็น ไรทำนองนั้น

Act your age! หรือ Be your age! นี่เลิกทำตัวเป็นเด็กซะที โตแล้วนะ ยังงอแงเป็นเด็กไปได้

แล้วก้เอามาใช้กับผู้ใหญ่แอ๊บแบ้วและชอบทำตัวเป็นเด็ก ๆ แปลความได้ว่า ไม่รู้จักโต

Alive and well สุขสบายดี

เช่น

How is Paul now? ตอนนี้พอลเป็นไงบ้าง

Whatever happened to Paul? พอลเขาเป็นตายร้ายดียังไงบ้าง

ก็ตอบกลับไปว่า

He is alive and well. เขาก็สุขสบายดี

All systems go ทุกอย่างพร้อม

คำตอบ Ready.พร้อมแล้ว

ในกรณีของผู้ควบคุณระบบเสียงจะตอบว่า Sound systems goes.ระบบเสียงพร้อม

ถ้าพร้อมก็ตอบว่า All systems go.ทุกอย่างพร้อม

Anything goes อะไรก็ได้,ไม่มีกฎเกณฑ์

go เป็นคำภาษาอังกฤษคำถึงที่มีความหมายหลากหลายนอกจากแปลว่า ไป

go ยังแปลว่า เริ่มได้ อีกด้วยนะ

ในเวลาแข่งเทนนิส ปิงปอง เมื่อเริมนับแต้มฝ่ายส่งลูกก็จะพูดว่า

This goes. หรือ These two go. (อันนี้ใช้เฉพาะกับกีฬาเทนนิส) แปลว่า เอาหล่ะนะ เริ่มนับหล่ะนะ

ในการแข่งขันมวยปล้ำ ผู้บรรยายก็จะพูดว่า In this math,anything goes. หมายความว่า ในการแข่งขันครั้งนี้ ง่ายๆ สบายๆ ไม่มีกฎเกณฑ์เคร่งครัดอะไร แปลว่า จะเล่นตุกติกยังไงก็ได้ ไม่มีกติกาอ่ะนะ

สำหรับในชีวิตประจำวัน Anything goes. หมายถึง การทำอย่างสบายๆโดยไม่มีกฎเกณฑ์มาบังคับ

Ain't it a shame? มันน่าเสียดายไหมหล่ะ

บางครั้งที่โอกาศดีๆได้หลุดลอยไป เป็นเรื่องธรรมดาที่คนเราจะต้องเสียดายชัก แล้วก็อดไม่ได้ที่จะพูดว่า เฮ้อ! มันน่าเสียดายมั๊ยหล่ะ

ถ้าผู้ฟังอยากจะร่วมเสียดายด้วยหล่ะก็ อาจจะพูดเสริมไปว่า I'd say. หรือ Yes,it is. หรือ That's too bad.

Ain't เป็นภาษาพูดนะคะ หากจะใช้ให้ถูกตามหลักภาษาก็ต้องใช้

isn't แต่อาจจะเสียรสชาติไปบ้าง

Bye for now. แค่นี้ก่อนนะ

คำพูดที่นิยมพูดกันในการอำลาไม่ว่าจะเป็นจากกันไปนานหรือแป๊ปเดียว ได้แก่ Bye ซึ่งเป็นคำพูดที่สั้นหรือสะดวกว่า Bye bye เยอะอยู่นะ

ในโทรศัพท์ก็นิยมพูด Good bye. , Bye bye และ Bye ก็ด้วย

ถ้ามีแนวโน้มที่จะได้พูดกันอีก หรือ วางอีกแป๊ปเดียวอีกหน่อยก็มาพูดอีกและ เลยมีคำพูดที่มักพูดกันติดปากก่อนวางหูโทรศัพท์ว่า

Good bye for now. หรือ Bye byefor now.

และหดสั้นลงเหลืออยู่แค่จิ๊ดเดียว

Bye for now.

แบบนี้หมายถึง แค่นี้ก่อนนะ เดี๋ยวค่อยคุยกันใหม่จ้า

Big deal ไม่เห็นมีอะไรเลย

Big deal ก็งั้นๆ กระจอก

เวลาพูดให้เน้นเสียงที่ big และลากเสียงให้ยาวๆหน่อย

Beats me ไม่รู้เหมือนกัน

Beats me. ไม่ทราบ หรือไม่ก็ ไม่เคยได้ยินมาก่อนเลย หรือ ไม่เคยรู้มาก่อนเลย

ถ้าเป็นภาษาอังกฤษคำว่าไม่ทราบก็คือ I don't know.

ส่วนไม่เคยได้ยินหรือไม่รู้มาก่อนเลยก็คือ I've never heard of it.

มันค่อนข้างจะเป็นทางการสักหน่อย ถ้าให้พูดแบบง่ายๆ อเมริกันจะใช้ว่า

It beats me. ย่อสั้นๆเหลือแค่ Beats me.

Come rain or shine ไม่ว่าฝนจะตกหรือแดดจะออก

แสดงให้เห็นถึงความเด็ดเดี่ยว การที่จะไม่ยอมเปลี่ยนๆอะไรง่ายๆ ไม่ว่าอะไรจะเกิดขึ้น

เช่น

A: Will you go to a party tonight?

B: I'll go, come rain or shine.

It's a cinch เรื่องขี้ผง

เรื่องกล้วย เรื่องหมูๆ เรื่องขี้ผง ให้ทันสมัยหน่อยก็เรื่องจิ๊บจ๊อย

หากจะเปลี่ยนคำพูดติดปากเหล่านี้เป็นภาษาอังกฤษก็จะพูดว่า

It was nothing.,That was easy. ,No problem.,No sweet.,A piece of cake. ฯลฯ

ในบรรดาคำพูดที่ใช้อวดความสามารถของตนมักได้ยินบ่อยว่า It's a cinch.

cinch แปลว่า สายรัดอานม้า ซึ่งจะต้องมัดให้แน่นและแน่ใจว่าจะไม่คลายขณะควบม้า มันจะต้องเป็นสิ่งที่แน่นอนและวางใจได้

หรือ A sure thing.

ดังนั้น เมื่ออะไรก็ตามที่แน่นอนและไว้วางใจก็จะถูกเหมารวมเป็น cinch ไปเสียหมด

เหมือนกับคนนั่นแหละ เมื่อมั่นใจหรือโอ้อวดอะไรก็จะพูดออกไปว่า

It's a cinch. เรื่องขี้ประติ๋ว

Been there,done that เคยมาหมดแล้ว

พูดเต็มๆว่า I have been there. I have done that.

แต่เวลาพูดต้องระวังตัว มองซ้ายมองขวาด้วยนะ เดี๋ยวเค้าจะหาว่า เราอวดดี เดี๋ยวโดนอัด

Never say die! อย่ายอมแพ้

ตาย อาจจะหมายถึง การแพ้ หรือ การยอมแพ้

เช่น เวลาเราแข่งขันอะไร เวลาแพ้ อาจอุทานว่า ตายแน่ !

หรือเวลาเล่นเกม เห็นเพื่อนท่าทีจะแพ้นี่ เลยบอกให้ยอมแพ้ไปซะ ด้วยคำพูดที่สุดแสนจะทิ่มแทงหัวใจว่า

Say die. ยอมแพ้เสียเถอะ หรือ ยอมแพ้มาดีกว่า

มีความหมายคล้ายคลึงกับคำว่า Give up. หรือ Give?

คนที่ไม่ชอบเป็นฝ่ายพ่ายแพ้ก็อาจจะพูดค้านคั้นขึ้นว่า

Are you kidding? Never say die. พูดเป็นเล่นน่า ไม่ยอมแพ้ง่ายๆดอก สู้โว้ย!

Look who's talking ก็ตัวเองก่อนซิ ก่อนที่จะพูดให้คนอื่นน่ะ

เข้ากับสำนวนไทยที่ว่า ว่าแต่เขาอิเหนาเป็นเอง ซะงั้น

Gotcha เข้าใจแล้ว

เวลาอธิบายอะไรแล้วสงสัยว่าผู้ฟังจะเข้าใจหรือไม่ ในภาษาอังกฤษนั้นอาจจะมี หลายคำ เช่น

Understand? ,Do you understand ( what I'm saying to you)? หรือ Got it?

ฝ่ายถูกถามสามารถโต้ตอบได้หลายแบบตั้งแต่ยาวสุด ไปถึงสั้นจุ๊ดจู๋ คือ Gotcha. ซึ่งเป็นคำตอบที่สั้นที่ซู๊ด รองจาก Yes.

Gotcha นี้แผลงมาจาก Got you. และก็ย่อมาจาก I got you. อีก

ไม่ว่าจะพูดแบบไหนก็แปลแบบเดียวกัน ว่า เข้าใจแล้วนะ

Eat your heart out! อิจฉาไหมหล่ะ

คำนี้ใช้ได้ 2 กรณี

กรณีแรกใช้เพื่อ พูดแซวเพื่อนเฉยๆ ตัวอย่างเช่น พี่ก๋องจะไปเที่ยวหัวหิวแล้วพูดแซวน้องว่า พี่จะได้ไปเที่ยวหัวหินนะ อิจฉามั๊ยหล่ะ น้องก็เลยตอบไปว่า อิจฉาจิ

กรณีที่สอง ใช้พูดเยาะเย้ย ในสิ่งที่เรามีแต่คนอื่นไม่มี อันนี้ตั้งระวัง เดี๋ยวหน้าไม่สวย

เช่น

เมื่อเราพูดว่า I've got an A in the English test. Eat your heart out!

ฉันได้ A ในการสอบวิชาภาษาอังกฤษด้วยหล่ะ อิจฉาเปล่า?

ถ้าหากไม่ดูตาม้าตาเรือให้ดี อาจจะทำให้เพื่อนหมั่นไส้และเหม็นหน้าได้

เพื่อนที่เคยสนิทอาจจะต้องเหมินมางไป ฉนั้น เวลาใช้พึงระวังให้ดี

I'll take a rain check เอาไว้คราวหน้าละกัน ขอผัดเป็นคราวหน้านะ

คำพูดนี้เป็นการเปิดทางไว้กว้างๆ ให้ผู้ฟังเข้าใจเอาเองว่า เมื่อคราวหน้าอยากจะชวนอีกก็ให้ลองมาชวนใหม่ดู อย่าพึ่งเข็ดว่าชวนแล้วไม่ไป

แต่ผู้พูดก็ควรระลึกไว้เสมอว่าคราวหน้าเมื่อถูกชวนอีกก็ควรไป และอย่าเอาคำพูดแบบนี้มาใช้ซ้ำอีกละกัน ไม่เช่นนั้นเขาอาจจะไม่คบค้าสมาคมด้วย ไม่รู้ด้วยน๊า

อยากรู้ที่มาของคำว่า rain check มั๊ยคะ

rain check เป็นตั๋วเข้าชมกีฬาที่ทางสนามให้แก่ผู้ชมไว้ใรกรณีที่การแข่งขันถูกยกเลิกไปเมื่อฝนตก โดยผู้ชมสามารถนำตั๋วนี้มาใช้ได้ในครั้งหน้าที่มีการแข่งขัน

credit : Grammarman มนุษย์แกรมม่า

Miller time! ได้เวลาพักแล้ว

Miller time! ได้เวลาพักแล้ว!
Miller เป็นยี่ห้อเบียร์ของบริษัท Johnny Miller ของสหรัฐอเมริกา ซึ่งบริษัทนี้ได้โฆษณาผลิตภัณฑ์ของตน ในลักษณะที่ว่า หลังจากการทำงานหนักของบรรดาผู้ชายในโฆษณาก็พากันมาดื่มเบียร์ Miller เย็นๆ เพื่อดับกระหายและเป็นการพักผ่อนด้วย โดยมีเสียงพูดแทรกขึ้นมาว่า It's Miller time.
โฆษณานี้ได้รับความนิยมมากมายและหลังจากนั้นมาไม่นาน It's Miller time. ก็กลายเป็นคำพูดติดปากของอเมริกัน
พอนานไปคำนี้ก้เหลือแค่ Miller time. แต่ความหมายเดิม
ตัวอย่างเช่น

Jacob: Miller time!

Robert: Great! I'm so tired. I need to get some sleep.

Bless you. and Give me a break!

Bless you ขอให้หายเร็วๆ ย่อมาจาก May God bless you.

ส่วนคู่สนทนาก้แค่ตอบกลับไปว่า Thank you.

Give me a break! ให้โอกาสหน่อยสิ ขอทีเถอะ

Give me a chance. หรือ Give me a break!

ในอีกกรณีนึง เมื่อมีคนทำให้คุณรำคาญใจ อาจจะพูดว่า

ไปให้พ้นๆหน่อย หรือ อย่ามากวนใจฉันนะ

ก็ใช้ Give me a break! ได้เช่นกัน

Tell me about it.รู้แล้วน่า

อันนี้จะเป็นประโยคที่คนอเมริกันชอบใช้กัน นะจ๊ะ

Tell me about it. แปลตรงตัวอย่างง่ายๆว่า เล่าให้ฉันฟังหน่อย , ไหนลองบอกมาซิ ในสถาณการณ์ทั่วไป

แต่เมื่อคู่สนทนาฝ่ายหนึ่งพูดในสิ่งที่คู่สนทนาอีกฝ่ายหนึ่งรู้แล้ว เรื่องนี้อาจจะกลายเป็นเรื่องที่น่ารำคาญความหมายก็จะเปลี่ยนไปทันที

ตัวอย่างเช่น

A: I heard the company will lay off many employees. ผมได้ยินว่าบริษัทจะปลดลูกจ้างออกเป็นจำนวนมาก

B: Tell me about it.เออ รู้แล้วน่า (ตอบด้วยอารมณ์ ไม่ดีนัก)